Tuesday, July 31, 2012

LONDON DIARY #6 ในCross Country...อะไรๆก็เกิดขึ้นได้

จบลงไปแล้วกับการแข่งขันในประเภท Cross Country ซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของการแข่งขันกีฬาอีเวนท์ติ้ง





ตั้งแต่ 8 โมงเช้าเป็นต้นมา เราพอจะเห็นจำนวนคนมากมายมหาศาลที่ต่างกรูกันมาจากทางสถานี Greenwich (รถไฟ DLR) ทำให้ถนนทั้งเมืองเต็มไปด้วยผู้คน  และเมื่อถึงเวลาประมาณ10โมงที่สนามเปิดให้เข้าไปได้  เราก็ต้องผจญกับการต่อแถวยาวเป็นกิโลเพื่อเข้าไปจับจองที่นั่งในการดู Cross Country ซึ่งจะเริ่มต้นในเวลk 12.30 น. จากข้อมูลของแหล่งข่าวหลายสำนัก ว่ากันว่าวันนี้มีผู้ชมมากกว่า 50,000 คน ซึ่งผมถือว่ามันเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในกีฬาขี่ม้า


เริ่มการแข่งขัน พวกเราปักหลักอยู่ที่เครื่องน้ำเป็นที่แรกเพราะอยู่ใกล้ประตูทางเข้ามากที่สุด ที่แพลนไว้ก็คือว่า เราจะต้องค่อยๆขยับขึ้นเขาไปเรื่อยๆ จนไปถึงจุดสตาร์ท ที่กะไว้ให้พอดีกับเวลาที่น้องณีนาเริ่มวอร์มม้าพอดี (ณีนาแข่งเป็นตัวที่ 45) ระหว่างนี้พวกเราก็ถือโอกาสเดินสำรวจสนามอีกครั้งและดูนักกีฬาชาติอื่นแสดงฝีมือไปก่อน














สนาม Cross Country ที่นี่เป็นสนามที่จัดอยู่ในสวนสาธารณะ ที่มีลักษณะเป็นเขาขึ้นๆลงๆ และมีความยาวเกือบ 6 กม. มีเครื่องกระโดดอยู่ 29 เครื่อง เป็นสนามระดับความยากสูงที่สุด คือระดับ 4 star สำหรับCross Country เวลาเป็นปัจจัยสำคัญหลัก โดยนักกีฬาห้ามขี่เกินเวลา 10.03นาที หากเวลาเกิน หรือมีการปฏิเสธเครื่อง จะมีการหักเป็นคะแนนเสีย


ผ่านไปกว่า 3 ชม. ก่อนที่จะถึงเวลาที่ณีนาจะลงแข่งซะอีก เราได้เห็นนักกีฬาหลายคนตกม้า และปฏิเสธเครื่องไปหลายคู่ ที่สำคัญสนามที่นี่มีความลื่นมากพอสมควร (Terrain) ยิ่งต้องขี่ที่ความเร็วขนาดนี้บนทางขึ้นลงเขาเยอะๆ ยิ่งทำให้การขี่ยากมากขึ้นไปอีกหลายเท่า


ในวันนี้มีนักกีฬาที่สามารถ clear round และไม่มีคะแนนเสียอยู่เพียง 9 คนเท่านั้น ในขณะเดียวกัน ก็มีนักกีฬาที่ต้องออกจากการแข่งขัน (eliminations) ถึง 15 คน (ตกม้า 10 คน ม้าล้ม 4 ตัว และปฏิเสธเครื่องกระโดดครบ 3 ครั้ง 1 ตัว) ซึ่งนักกีฬาที่ต้องออกจากการแข่งขันเหล่านั้น เป็นพวกตัวเต็งหลายคนเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น นักกีฬาจากออสเตรเลีย 2 คน (Clayton Fredericks, Sam Griffith), นักกีฬาจากญี่ปุ่น 3 คน (Sato, Tanaka รวมทั้ง Oiwa ที่นำมาที่หนึ่งในประเภทศิลปการบังคับม้า), ไอร์แลนด์ 2 คน, แคนาดา 3 คน ฯลฯ ในขณะเดียวกัน หลายๆคนที่ผ่านการแข่งขันมาได้ก็ทำผลงานออกมาไม่ดีนัก  บอกได้เลยว่าสนามนี้ยากมากจริงๆ







กลับมาพูดถึงน้องณีนาหนึ่งเดียวของเราบ้าง ณีนาสามารถทำผลงานได้ดีมาก โดยสามารถ clear round และมีคะแนนเสียจากเวลา 16 คะแนน ทำให้เธอมีคะแนนรวมเป็น 69.9 คะแนน รั้งอันดับที่ 37 ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในอันดับต้นๆแต่ผมบอกได้เลยว่าความสามารถของน้องณีนาโดยเฉพาะการกระโดดใน Cross country นั้นเป็น "ของจริง!!" เพราะจะขี่คอร์สนี้จบได้ต้องใช้ฝีมือล้วนๆ ผิดพลาดนิดเดียวก็ไม่ได้ ที่สำคัญน้องณีนาอายุเพียงแค่ 20 ปี เด็กที่สุดในการแข่งขัน และนี่เป็นสนามระดับ 4 star ครั้งแรกของเธอ


ตอนที่น้องณีนาลงแข่ง นอกจากพวกเรากองเชียร์คนไทยแล้ว คนดูทั้งสนามก็จับตาดูน้องณีนาเป็นพิเศษ สังเกตได้จากคนที่เดินไปเดินมา มักจะหยุดดูน้องณีนากันทั้งสนามและส่งเสียงเชียร์กันดังพอๆกับเชียร์ทีมอังกฤษเจ้าภาพ เป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกจริงๆครับ เรียกได้ว่าคว้าใจคนดูไปทั้งสนามเลย :)


ต้องขอแสดงความยินดีกับน้องณีนาและขอบคุณที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในวงการขี่ม้าโลกครับ


Cross Country Results - Team
Cross Country Results - Individual





Monday, July 30, 2012

LONDON DIARY #5 Dressage Day 2 พลิกล็อกถล่มทลาย ญี่ปุ่นผงาดนำที่ 1 !!

Yoshiaki Oiwa JPN & Noonday De Conde

ASIA IS RISING....

ญี่ปุ่นสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ นำ Dressage วันแรก เฉือนตัวเต็ง มีลุ้นเหรียญทอง!

เรื่องเหลือเชื่อในลอนดอนโอลิมปิคที่เป็นที่กล่าวถึงมากที่สุดในวงการขี่ม้าโลกหลังจบการแข่งขันวันนี้ (29 กค.) เห็นจะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของนักกีฬาชาวญี่ปุ่น โดย นาย Yoshiaki Oiwa วัย 36 ปี ขี่ม้า Noonday De Conde ทำคะแนนเสียในการแข่งขัน Dressage ไปเพียง 38.10 คะแนน เฉือนตัวเต็งคนอื่นๆ ไปแบบมีเซอร์ไพรซ์ เพราะเป็นม้ามืดที่ไม่มีใครจับตามอง!

 Yoshiaki Oiwa JPN and Noonday De Conde is on the lead after Dressage day with score 38.10.

ปกติแล้วในวงการขี่ม้าระดับโลก นักกีฬาที่อยู่หัวแถวมักถูกผูกขาดโดยนักกีฬาจากฝั่งยุโรป, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์เท่านั้น แต่ในครั้งนี้นักกีฬาญี่ปุ่นทำให้เราเห็นแล้วว่าคนเอเชียก็สามารถเล่นกีฬานี้ได้ดีเช่นกัน 

จากความรู้สึกส่วนตัวเวลาไปแข่งหรือไปตัดสิน ผมมักจะรู้สึกว่าฝรั่งไม่ค่อยเชื่อว่าคนเอเชียเราจะทำได้ดี ดังนั้นการทำผลงานในโอลิมปิคครั้งนี้ของญี่ปุ่น ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่วันแรกของการแข่งขัน แต่ก็ได้เป็นการบอกให้ทั้งโลกได้รู้ว่า “เอเชีย”ก็มีดีเหมือนกัน! 

ประเทศเราเองก็ควรดูแบบอย่างจากประเทศญี่ปุ่นไว้ เพราะกว่าทีมญึ่ปุ่นจะมาถึงวันนี้ได้ ก็ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ และทุนทรัพย์ไปมากมาย ทั้งการเก็บตัวฝึกซ้อมที่ยุโรป การลงแข่งขันในยุโรปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการไปฝึกฝนอยู่กับยอดฝีมือหลายคนไม่ว่าจะเป็นโค้ชชาวเยอรมันหรือฝรั่งเศส  

สำหรับในวันนี้ ถือว่าทีมญี่ปุ่นทำผลงานออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างมากเพราะสามารถรั้งอันดับที่ 6 ของการแข่งขันอีเวนท์ติ้งประเภททีมได้ โดยทำคะแนนห่างจากทีมเยอรมัน ที่นำอยู่ในอันดับหนึ่งเพียงแค่ 11 คะแนนเท่านั้น  เมื่อผลงานออกมาดีขนาดนี้ก็คงทำให้ทีมงานของเขาหายเหนื่อยและชื่นใจไปตามๆกัน ผมเองซึ่งนั่งอยู่ข้างกองเชียร์ญี่ปุ่นและร่วมวงเชียร์กับเขาด้วย ก็ยิ่งปลื้มใจแทนทีมญึ่ปุ่นเข้าไปใหญ่ที่เค้าเตรียมพร้อมมาอย่างยอดเยี่ยม

ในส่วนของประเทศไทย วันนี้น้องณีนา นักกีฬาขี่ม้าสาวหนึ่งเดียวของไทยก็สามารถทำผลงานออกมาได้ดีเช่นกัน โดยเธอกัยม้าบัทส์ลีออน มีคะแนนเสีย 53.9 คะแนน ห่างจากลำดับที่หนึ่งเพียง 16 คะแนนเท่านั้น  ถึงแม้จะไม่สามารถทำคะแนนแบบญี่ปุ่นได้ แต่นี่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักกีฬาไทยที่อายุน้อยที่สุดในการแข่งขัน และเป็นตัวแทนผู้หญิงคนแรกของเอเชีย ว่าสามารถก้าวมาถึงเวทีระดับโลกได้ 

Nina Lamsam Ligon THA and Butts Leon finished at 48th place with score 53.90.

Consider this is Nina's first Olympics, she has done pretty good job!

วัันพรุ่งนี้ต้องคอยลุ้นกันครับว่าจะมีผลออกมาเป็นอย่างไรบ้าง เพราะในสนาม Cross Country นั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ โดยน้องณีนาจะลงแข่งขันเป็นตัวที่ 45 ในเวลาประมาณ 15.26น. ตามเวลาประเทศอังกฤษครับ



Entrance of the Greenwich venue.

Spectators at the Eventing Dressage competition.

My favourite pair after 2 days of Dressage - Stefano Brecciaroli ITA & Apollo WD Wendi Kurt Hoev. The pair finished 2nd, 38.50.


The last to go 'Toddy' or Mark Todd and Campino finished the test in 3rd place, 39.10.

Sara Ostholt Algotsson SWE riding Wega finished in 4th place, 39.30.

Enjoy the move!!


Sunday, July 29, 2012

LONDON DAIRY #4 Olympic Dressage Day 1

บรรยากาศการแข่งขันในวันแรกนี้ เริ่มต้นตั้งแต่เช้า นักกีฬาทุกคนดูหน้าตามุ่งมั่น และเริ่มวอร์มกันตามลำดับการแข่งขัน ถึงแม้ณีนาจะไม่ได้แข่งวันนี้แต่เราก็ไปดูนักกีฬาคนอื่นๆแข่งกันเพราะทุกคนเป็นที่สุดของโลกอีเว้นท์ติ้ง 


ในมุมของผมเอง ถึงแม้จะได้เข้าไปในสนามมาหลายรอบก่อนหน้านี้ แต่พอได้มาร่วมงานแข่งจริง บรรยากาศของสนามดูอลังการ ชวนให้ขาสั่นอยู่ไม่น้อย 


สำหรับคนที่อยากจะดูโอลิมปิคให้สนุก ต้องรู้ว่าการแข่งขันขี่ม้าประเภทศิลปการบังคับม้าในระดับโอลิมปิค (4 Star) มีท่าอะไรบ้าง


ตอบ: เป็นท่าทางในระดับ Advanced ถ้าเทียบกับ Dressage ธรรมดา มี Shoulder-in / Half-pass ทั้งใน trot และ canter ; Extension ใน trot และ canter รวมทั้ง Flying Change ด้วย


หลายคนบอกว่าท่าไม่เห็นยากเลย เพราะแค่ระดับ Advanced เอง....


ถูกครับท่าไม่ยากแต่ ลองนึกดูนะครับว่าม้าพวกนี้จริงๆแล้วเป็นม้าที่ต้องกระโดด 1.30m ใน Show jumping และกระโดดทั้งสูงทั้งกว้างเกือบ 3 เมตรใน Cross Country 


สำหรับผมแล้วม้าพวกนี้มีความพิเศษ เก่งรอบตัว ทำได้ทุกอย่าง ที่สำคัญ ม้าพวกนี้จิตใจแข็งแกร่งมาก


เรามาดูภาพบางส่วนจากการแข่งขันวันแรกกันนะครับ ที่เลือกมาเป็นตัวที่ผมชอบเป็นพิเศษครับ :)


ผลการแข่งขัน Dressage Day 1


Karen O'Connor USA & Mr. Medicott 

Dirk Schrade GER & King Artus

Mary King GBR & Imperial Cavalier

Ludvig Svennerstal SWE & Shamwari 

Jonathan Paget & Clifton Promise

Tiana Coudray USA & Ringwood Magister

Andrew Hoy AUS & Rutherglen

Saturday, July 28, 2012

LONDON Diary #3 Let the Games begin


หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าในกีฬาอีเวนท์ติ้งนั้น การแข่งขันต้องเริ่มกันตั้งแต่การตรวจสภาพม้าหรือ Horse Inspection ที่จะมีีก่อนการแข่งขันหนึ่งวัน



การตรวจสภาพม้านั้นสำคัญมาก เพราะเป็นการนำม้ามาโชว์ให้กรรมการทั้งหลายดูว่ามีความพร้อมที่จะแข่งขันหรือเปล่า นอกจากนั้น ม้าที่ผ่านการตรวจสภาพม้า จะต้องไม่แสดงอาการเจ็บออกมาให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะสำหรับกีฬาขี่ม้าแล้ว สวัสดิภาพของม้านั้นสำคัญที่สุด ถ้าม้าออกอาการเจ็บเพียงนิดเดียวเส้นทางการแข่งขันของนักกีฬาและม้าคู่นั้นก็จะจบลงทันที

วันนี้ (27 ก.ค.) ก็เป็นวันตรวจสภาพม้าของกีฬาอีเวนท์ติ้งในโอลิมปิค ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. โดยลำดับของการตรวจม้าใช้การจับฉลากในการจัดลำดับเพื่อความเป็นธรรม และหนึ่งเดียวของไทย คือ น้องณีนา ที่คู่กับม้า Butts Leon ก็จับได้ในลำดับสุดท้าย

การตรวจม้าทำในสนามแข่งขันหลัก โดยจะทำเลนสำหรับให้ม้าวิ่งและจะต้องเป็นพื้นแข็ง ยาวประมาณ 40 เมตร นักกีฬามีหน้าที่จูงม้าวิ่งไป-กลับเพื่อให้กรรมการดูการวิ่งของม้า ส่วนไฮไลท์สำคัญนอกเหนือจากการตรวจม้า ก็คือการแต่งตัวของนักกีฬาซึ่งเป็นจุดสนใจหลักของกรรมการและคนดู เรียกได้ว่านักกีฬาต้องเตรียมพร้อมเรื่องชุดแต่งกายกันมาล่วงหน้า จนถึงขนาดที่ต้องจัดเต็มกันเลยก็ว่าได้ ซึ่งส่วนใหญ่นักกีฬามักจะมาในชุดสากล ไม่ก็ชุดฟอร์มของประเทศต่างๆที่เน้นสีสันตามธงชาติ ซึ่งปีนี้หลายประเทศมีแฟชั่นดีไซเนอร์มาออกแบบยูนิฟอร์มให้ ทั้ง Stella McCartney, Ralph Lauren, Giorgio Armani ทำให้ยิ่งน่าตื่นตาตื่นใจไปกันใหญ่

ส่วนน้องณีนาในวันนี้มาในชุดสากลของนักกีฬาไทยตามปกติ แต่แอบเก๋เล็กน้อยโดยการติดดอกกล้วยไม้ไว้ที่ผมด้านหลัง ทำให้คนดูและกรรมการหันมาจับตามองกันเป็นตาเดียว ณีนาพาเจ้า Butts Leon วิ่งไปกลับอย่างสง่างาม ไม่ติดปัญหาใดๆ หลังจากวิ่งจบกรรมการคนนึงเดินเข้ามาบอกว่า ณีนาทำออกมาได้ดีที่สุดคนนึงของวันนี้ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่กรรมการรู้สึกดีกับเรา


Photo AP via daylife.com Permalink



จะว่าไป ผมคงไม่ได้คิดไปเองคนเดียวแน่ๆ เพราะตอนตรวจม้ากันอยู่ ผมซึ่งนั่งอยู่บริเวณที่ช่างภาพจากหลายๆประเทศนั่งอยู่ ก็สังเกตเห็นว่า นอกจากช่างภาพเหล่านี้จะถ่ายรูปนักกีฬาของประเทศตนเอง ประเทศเจ้าภาพ หรือตัวเต็งหลายๆคนแล้ว พวกเค้าก็ไม่พลาดที่จะหยิบกล้องขึ้นมารัวชัตเตอร์ตอนที่ณีนาเข้าสนามมาเป็นคนสุดท้าย โดยเฉพาะช่างภาพจาก FEI ที่เอารูปณีนาลงเว็บไซต์ทันที เพราะณีนาเป็นนักกีฬาคนล่าสุดที่ได้รับรางวัล FEI HSBC Rising Star ปี 2011 แถมยังได้มาแข่งขันในโอลิมปิค และยังเป็นผู้หญิงเอเชียคนแรกที่มาแข่งขันในอีเวนท์ติ้งโอลิมปิคอีก นอกจากนี้ณีนายังถือเป็นนักกีฬาขี่ม้าEventing ที่อายุน้อยที่สุดในการแข่งขันด้วย ทำให้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจณีนาเป็นพิเศษ ก็ขอเชียร์น้องณีนาให้ทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด ผมเชื่อว่าถ้าผลวันแรกออกมาดี วันหลังๆอาจมีเฮได้ครับ!

สำหรับตารางการแข่งขัน  หลังจากนี้จะเริ่มการแข่งขันอีเวนท์ติ้งในประเภทต่างๆตามลำดับดังนี้

ศิลปการบังคับม้า(Dressage) แบ่งออกเป็นสองวัน (28-29 ก.ค.)
ครอสคันทรี่ (Cross Country)  (30 ก.ค.)
และกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง(Show Jumping) (31ก.ค.)

โดยณีนาจะลงแข่งขันเป็นลำดับที่ 45 ของนักกีฬาทั้งหมด และเป็นลำดับที่ 8 ของการแข่งศิลปการบังคับม้าในวันที่สอง (29 ก.ค.)  ซึ่งถ้าดูตามตารางแล้ว ณีนาจะลงแข่งขันในเวลา 10.56 น. ของวันนั้น

ยังไงก็ต้องขอแรงใจเชียร์น้องณีนาตามวันเวลาดังกล่าวด้วยครับ แล้ว HMT จะคอยรายงานอัพเดทส่งตรงจากข้างสนามครับ

ENJOY THE MOVE!!

Wednesday, July 25, 2012

LONDON DIARY #2 โลกใบเล็ก

ตั้งแต่เมื่อวาน(23 ก.ค.) จนถึงวันนี้ตอนสายเป็นการเตรียมพร้อมคอกให้กับButts Leon ที่จะย้ายมาในช่วงเที่ยงของวันนี้ (24 ก.ค.) ในการเตรียมคอกม้านอกเหนือจากการเตรียมความพร้อมทั่วๆไปแล้ว แต่ละประเทศยังมีการตกแต่งคอกม้าเพื่อแสดงถึงความเป็น"ทีมชาติ" ส่วนใหญ่ก็จะเอาธงและป้ายชื่อประเทศมาประดับ พร้อมกับ theme สีของแต่ละประเทศ

Butts Leon เดินทางมาถึง Greenwich; Photo courtesy of Nina Ligon

ในส่วนของทีมไทย ถึงแม้เราจะมีน้องณีนาลงแข่งประเภทบุคคลแค่คนเดียว แต่เราก็ไม่น้อยหน้าชาติอื่นๆเค้า และที่สำคัญนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ของการแข่งขันมักจะมาหยุดถ่ายรูปที่ธงชาติไทยและตราสัญลักษณ์โอลิมปิคประเทศไทย ที่เป็นรูป"ช้างศึก" ยืนอยู่บนห่วงโอลิมปิค ผมคิดว่าเค้าคงแปลกตากับช้างของเรา ว่ามันเกี่ยวอะไรกับการขี่ม้า แต่ก็ไม่สำคัญเพราะอย่างน้อยเราก็ทำให้คนอื่นได้รู้แล้วว่าในโอลิมปิคครั้งนี้มีตัวแทนจากประเทศไทยเข้าแข่งขันด้วย

ธงชาติไทยและสัญลักษณ์"ช้างศึก"หน้าคอก Butts LeonPhoto courtesy of Nina Ligon

ในสนามโอลิมปิคจึงเปรียบเหมือน "โลกใบเล็ก" ของวงการขี่ม้า เพราะมีประเทศต่างๆอยู่เต็มไปหมด นอกจากนั้นยังรู้จักสนิทสนมกันอีกด้วย

ความตื่นเต้นเริ่มขึ้นในช่วงบ่ายเพราะว่านักกีฬาและม้าทุกตัวในการแข่งขันอีเวนท์ติ้งเข้าประจำคอก และเมื่อมาถึงก็ไม่รอช้าที่จะเอาม้าออกมายืดเส้นยืดสายและให้ม้าได้ออกมาเจอบรรยากาศของสนามแข่งขัน ซึ่งม้าส่วนใหญ่ผ่านการแข่งขันใหญ่ๆมานับครั้งไม่ถ้วนจึงไม่ค่อยเห็นม้าตัวไหนออกอาการต่ืน อย่างมากก็แค่หยุดมองไปรอบๆ


ณีนากำลังฝึกซ้อมเบาๆในวันแรกที่มาถึงPhoto courtesy of Nina Ligon

ช่วงบ่ายนี้นอกเหนือจากการดูน้องณีนาซ้อมแล้วผมก็ปักหลักอยู่แถวสนามซ้อมเพื่อดูนักกีฬาระดับโลกเค้าฝึกซ้อมกัน บางคนรู้จักสนิทสนม บางคนเคยเห็นแต่ในทีวี

เริ่มจากทีมชาติอังกฤษที่มาร่วมแจมสนามซ้อมกับณีนา นำมาโดย Mary King สุดยอดนักกีฬาอีเว้นท์ติ้งหญิงของอังกฤษ ตามมาด้วย Zara Phillips หลานสาวควีนอลิซาเบธ ลูกเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ และนักกีฬาขวัญใจของอีเวนท์ติ้งอังกฤษ ตัวเต็งเหรียญทองในครั้งนี้ William Fox-Pitt นักกีฬาพวกนี้น่ารักเป็นกันเองทุกคนโดยเฉพาะ Fox-Pitt ที่ทักทายพวกเราอย่างเป็นกันเองเพราะซี้กับคุณแม่ณีนา(คุณแป้น)

William Fox-PittPhoto courtesy of Nina Ligon



ต่อมาเราก็เจอทีมชาติอเมริกาที่นำมาด้วย Phillip Dutton และ Boyd Martin ที่เป็นความหวังเหรียญทองของอเมริกา จริงๆแล้วทั้งสองคนเป็นคนออสเตรเลียแต่ได้ย้ายสัญชาติไปเป็นอเมริกันเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะ Boyd ที่พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่เค้าขี่อยู่กับ Heath Ryan ที่ออสเตรเลีย นักกีฬาไทยชุดเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ปี1998 จะรู้จักเค้าดีเป็นพิเศษเพราะฝึกซ้อมด้วยกันมา  เมื่อไม่นานมานี้ Boyd ยังได้รับการโหวตเป็น Top 100 นักกีฬาชายที่เซ็กซี่ที่สุด (Boydอยู่ในอันดับที่ 11) ทุกครั้งที่เราเจอกับ Boyd เค้าจะทักทายเป็นภาษาไทย"สวัสดีครับ"ทุกครั้ง


นิวซีแลนด์ที่ประกอบไปด้วย นักกีฬาระดับตำนานอย่าง Mark Todd, Andrew Nicholson กับดาวรุ่งพุ่งแรง Jonathan Paget เป็นเพื่อนบ้านที่อยู่คอกม้าเดียวกันกับประเทศไทย ทั้งสามคนนี้ก็มีสิทธิลุ้นเหรียญทองเหมือนกัน เผอิญวันนี้Andrew Nicholsonมาตามหาผมที่คอกแต่ผมไม่อยู่พอดีเลยไม่ได้เจอกัน ผมเองก็ไม่รู้จักเค้าหรอกแต่ผมร่วมงานกับ John Nicholsonพี่ชายเค้า(เห็นบอกว่าฝากของมาให้) ซึ่งประเทศไทยจะได้ John มาเป็น Cross Country Course Designerในงานแข่ง Asian Eventing Championship ปลายปีนี้ที่พัทยาด้วย  เรียกได้ว่า นิวซีแลนด์มีคนเก่งๆในวงการขี่ม้าเยอะจริงๆ

หัวหน้าทีมญี่ปุ่นPhoto courtesy of Nina Ligon

พอออกมาจากคอกก็ได้เจอทีมชาติญี่ปุ่นทั้งทีม เนื่องจากเป็นเอเชียด้วยกันก็เลยคุยกันอย่างสนุกสนานเป็นกันเอง ทั้ง Kenki Sato แชมป์เอเชี่ยนเกมส์ครั้งล่าสุด (นักกีฬาคนนี้เป็นพระญี่ปุ่น)และ Yumira นักกีฬาหน้าใหม่ที่เคยมาแข่งอีเวนท์ติ้งที่พัทยาหลายปีก่อน

ทีมสุดท้ายที่ได้เจอก็คือออสเตรเลีย ที่เป็นตัวเต็งประเภททีมของการแข่งครั้งนี้ Clayton กับ Lucinda Fredericks, Christopher Burton, Andrew Hoy ที่น่าเสียดายคือ Shane Rose โค้ชเอเชี่ยนเกมส์ทีมชาติไทยปี 2002 ที่ม้าเจ็บก่อนการแข่งขันไม่กี่วันเลยต้องให้ตัวสำรองMegan Jones มาลงแทนที่

หลังจากนั้นก็เจอเพื่อนๆที่เป็นกรรมการFEI จากประเทศต่างๆ บางคนเคยร่วมงานกัน บางคนเคยเข้าอบรมด้วยกัน เลยรู้สึกว่าการมาในโอลิมปิคครั้งนี้ได้เจอเพื่อนหลายๆคนพร้อมกัน และพลอยทำให้รู้สึกว่าใน Eventing โอลิมปิคครั้งนี้ เหมือนเราได้ย่อโลกของการขี่ม้าเข้ามาอยู่ในที่ๆเดียวกัน สำหรับผมแล้วมันเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ โดยเฉพาะการได้มีโอกาสเข้ามาดูเบื้องหลังการเตรียมตัวก่อนการแข่งขันที่จะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

Helen Christie & Tor ChalermcharnPhoto courtesy of Nina Ligon

สุดท้ายของวันที่ Greenwich Park ผมบังเอิญได้เจอAndrew Hoyอีกครั้ง เค้าเดินมาหาผมและบอกว่า "I made it!" ผมแสดงความยินดีและยังบอกเขาว่าผมยังจำคำพูดที่เขาพูดไว้เมื่อปีที่แล้วได้ และคุณก็ทำได้ สร้างสถิติเป็นนักกีฬาขี่ม้าอีเวนท์ติ้งที่ลงแข่งโอลิมปิคเป็นสมัยที่ 7 แล้วจนได้!


เมื่อปีที่แล้วหลังจากจบซีเกมส์ที่อินโดนีเชีย ผมเคยถามAndrew Hoy ว่าคุณจะไปแข่งโอลิมปิคที่ลอนดอนหรือเปล่า?  Andrew ตอบผมว่า "โอกาสที่เค้าจะได้ไปแข่งที่โอลิมปิคมีแค่น้อยนิด เพราะนักกีฬาออสเตรเลียคนอื่นๆทำคะแนนสะสมนำหน้าเค้าไปมากแล้ว แต่เค้ายังไม่ได้เริ่มแข่งเพื่อคัดตัวเลย แต่เค้าจะไม่ยอมแพ้"


"ตราบใดที่ยังมีโอกาสอยู่เค้าก็จะทำและเมื่อเค้าตัดสินใจแล้วก็จะเริ่มทำทันที"

นักกีฬาไทยที่อยากไปไกลถึงฝั่งฝัน ลองดูนักกีฬาโอลิมปิคเป็นตัวอย่างนะครับ ความพยายามและความมุ่งมั่นจะทำให้เราไปถึงจุดหมายได้ไม่ยากครับ :)



Tuesday, July 24, 2012

HMT Mini Games ทายผลการแข่งลุ้นของรางวัลจากลอนดอน


รางวัลเข็มที่ระลึก
Wenlock (Dressage) 
Wenlock (Cross Country)
Wenlock (Show Jumping)

กติกา 
ทายผลการแข่งขันEventing ว่าทีมชาติใดทำผลงานได้ดีที่สุดในแต่ละประเภท(นับคะแนนจากนักกีฬา 3 คนที่ทำผลงานได้ดีที่สุด) โดยแบ่งรางวัลเป็น 3 รอบจากการแข่งขันแต่ละวัน (Dressage / Cross Country / Show Jumping-Team Final)

รางวัล Wenlock (Dressage)
ทายผลการแข่งว่าทีมชาติใดทำผลงานได้ดีที่สุดในประเภทศิลปการบังคับม้า(Dressage)
โดยใส่ชื่อประเทศลงใน Post ของการทายรางวัลใน Facebook page ของ Horsemove Thailand
เริ่มทายได้ระหว่างวันที่ 28-29 ก.ค.นี้ (ปิดรับผลตอน 12.00 น. วันที่ 29 ก.ค.เวลาประเทศอังกฤษ หรือ 18.00 น.ในประเทศไทย)

รางวัล Wenlock (Cross Country)
ทายผลการแข่งว่าทีมชาติใดทำผลงานได้ดีที่สุดในประเภทCross Country
โดยใส่ชื่อประเทศลงใน Post ของการทายรางวัลในFacebook page ของ Horsemove Thailand
เริ่มทายได้ระหว่างวันที่ 29-30 ก.ค.นี้ (ปิดรับผลตอน 12.00 น. วันที่ 29 ก.ค.เวลาประเทศอังกฤษ หรือ 18.00 น.ในประเทศไทย)

รางวัล Wenlock (Show Jumping)
ทายผลการแข่งว่าทีมชาติใดจะชนะเลิศได้รับเหรียญทอง(ประเภททีม)
โดยใส่ชื่อประเทศลงใน Post ของการทายรางวัลในFacebook page ของ Horsemove Thailand
เริ่มทายได้ระหว่างวันที่ 30 ก.ค.นี้ (ปิดรับผลตอน 12.00 น. วันที่ 29 ก.ค.เวลาประเทศอังกฤษ หรือ 18.00 น.ในประเทศไทย)

สามารถดูรายละเอียดรายชื่อทีมชาติEventingได้ที่นี่

Australia :      
Christopher Burton (HP Leilani), Lucinda Fredericks (Flying Finish), Clayton Fredericks (Bendigo), Andrew Hoy (Rutherglen), .Megan Jones  (Allofasudden)

Belgium  :      
Carl Bouckaert (Mensa), Virginie Caulier (Nepal du Sudre), Karin Donckers (Gazelle de la Brasserie), Marc Rigouts (Dunkas), Joris Van Springel (Lully des Aulnes).

Brazil      :       
Marcio Carvalho Jorge (Josephine), Serguei Fofanoff (Barbara), Ruy Fonseca (Tom Bombadill Too), Renan Santos Guerreiro (Kenny), Marcel Tosi (Eleda All Black).

Canada   :      
Peter Barry (Kilrodan Abbott), Hawley Bennett (Gin & Juice), Rebecca Howard (Riddle Master), Michelle Mueller (Amistad), Jessica Phoenix (Exponential).

France    :      
Lionel Guyon (Memetis de Lalou), Aurelien Kahn (Cadiz), Denis Mesples (Oregon de la Vigne), Donatien Schauly (Ocarina du Chanois), Nicolas Touzaint (Hildago de l’Ile).

Great Britain:  
Tina Cook (Miners Frolic), William Fox-Pitt (Lionheart), Mary King (Imperial Cavalier), Zara Phillips (High Kingdom), Nicola Wilson (Opposition Buzz).

Germany:       
Sandra Auffarth (Opgun Louvo), Michael Jung (Sam), Ingrid Klimke (Butts Abraxxas), Dirk Schrade (King Artus), Peter Thomsen (Barny).
 

Ireland:           
Aoife Clark (Master Crusoe), Mark Kyle (Coolio), Joseph Murphy (Electric Cruise), Michael Ryan (Ballylynch Adventure), Camilla Speirs (Portersize Just a Jiff).
 

Japan:            
Negishi Atsuhi (Pretty Darling), Oiwa Yoshiaki (Noonday de Conde), Kenki Sato (Chippieh), Toshiyuki Tanaka (Marqui de Plescop), Takayuki Yumira (Latina).

Netherlands: 
Andrew Heffernan (Millthyme Corolla), Tim Lips (Concrex Oncarlos), Elaine Pen (Vira), 
 

New Zealand:  
Andrew Nicholson (Nereo), Jonathan Paget (Clifton Promise), Caroline Powell (Lenamore), Jonelle Richards (Flintstar), Mark Todd (Campino).

Sweden:        
Linda Algotsson (La Fair), Sara Algotsson Ostholt (Wega), Niklas Lindback (Mister Pooh), Malin Petersen (Sofarsogood), Ludvig Svennerstal (Shamwari).
 

USA    :           
William Coleman (Twizzel), Tiana Coudray (Ringwood Magister), Philip Dutton (Mystery Whisper), Boyd Martin (Otis Barbotiere), Karen O’Connor (Mr Medicott).
 
มาร่วมสนุกกันเยอะๆนะครับ

Monday, July 23, 2012

NINA LIGON'S MEDIA FACTSHEET FOR LONDON 2012

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของณีนา ล่ำซำ ลิเกิ้น นักกีฬาขี่ม้าอีเวนท์ติ้งไทยในลอนดอนโอลิมปิค ได้ที่

รวมถึงช่องทางอื่นๆ 

ส่วนเบื้องลึกเบื้องหลัง ติดตามกันได้ที่ www.horsemovethailand.com ครับ

Nina Lamsam Ligon - Media Factsheet for London 2012

Sunday, July 22, 2012

LONDON DIARY #1 โอลิมปิคกับความโกลาหล


ตามปกติแล้วลอนดอนก็เป็นเมืองใหญ่ที่วุ่นวายพอสมควรอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นจำนวนประชากรที่มีอยู่มากมาย หรือจำนวนนักท่องเที่ยวที่มักเดินทางมาเยี่ยมเยียนบ่อยครั้ง  ยิ่งพอเป็นช่วงที่มีการแข่งขันโอลิมปิคด้วยแล้ว เมืองลอนดอนเองต้องรับมือกับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จากประเทศต่างๆ แถมยังมีนักท่องเที่ยวกับคอกีฬาที่ตามมาดูมาเชียร์นักกีฬาและชมกีฬาที่ตัวเองชื่นชอบอีก ทำให้การใช้ชีวิตตามปกติของชาวลอนดอนต้องเปลี่ยนไปพอสมควร

เรียกได้ว่ากินอยู่หลับนอน โดนกระทบกันถ้วนหน้า....

ไล่มาตั้งแต่ที่สนามบิน ลองจินตนาการว่าในช่วงสัปดาห์หน้าจะมีคนเดินทางมาที่ลอนดอนมากขนาดไหน ยิ่งมาได้ข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองนัดหยุดงานประท้วงโดยการมาทำงานกันแค่ 30 เปอร์เซนต์  ไม่อยากจะคิดว่าต้องต่อคิวยาวเป็นกิโลแน่ๆ



ถนนหนทางต่างๆก็เตรียมพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาและผู้ที่เกี่ยวข้อง(ซึ่งมีจำนวนมากกว่านักกีฬาเยอะ) โดยระหว่างการแข่งขัน ถนนสำคัญๆหลายเส้นจะถูกกั้นเป็นโอลิมปิคเลน  บางถนนเล็กอยู่แล้วพอมาเหลือเลนเดียวจะเป็นยังไง

หลายคนคงบอกว่าถนนมันติดก็ใช้รถไฟสิสะดวกสบายจะตาย (Tube, DLR และอื่นๆ)  แต่ลองคิดดูนะครับว่าจะมีคนใช้บริการรถไฟมากมายขนาดไหน??  เมื่อวานระหว่างที่เราไปสำรวจเมือง สังเกตเห็นว่าทุกสถานีประกาศให้ทุกคนเผื่อเวลาในการเดินทางล่วงหน้าไว้สองถึงสามชั่วโมงเลยทีเดียว



ยกตัวอย่างที่พัก โชคดีที่ทาง Austin Ligon คุณพ่อของณีนาเตรียมการไว้อย่างดีโดยจองบ้านล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วเมื่อตอนที่น้องณีนามาแข่ง Test Event ที่นี่ คุณพ่อน้องณีนาเล่าว่า โชคดีมากที่ได้ที่พักอยู่ตรงนี้ (20 เมตรจากประตูทางเข้าสนามแข่ง) และราคาไม่แพงมาก เพราะจองล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ถ้าจะมาจองช่วงใกล้ๆแข่ง เท่าที่รู้มา ราคาค่าเช่าสูงกว่าปกติ 10-15 เท่าเลยทีเดียว และต้องเช่าอย่างน้อยเป็นเดือนๆ






ที่ไหนมีโอลิมปิค ที่นั่นก็มีความโกลาหลวุ่นวายตามมา  แต่ทุกคนก็เข้าใจ เพราะมันเป็นการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้ากรุงเทพฯได้จัดโอลิมปิคขึ้นมาจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง 


แต่เชื่อเถอะครับว่า เบื้องหลังความโกลาหลเหล่านั้น ยังมีความพิเศษอยู่ สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือบรรยากาศโอลิมปิค เราได้เห็นสัญลักษณ์ของการแข่งขันกีฬามีอยู่ทั่วไปตามถนนหนทาง บ้านช่อง ร้านค้า และยานพาหนะทุกประเภท ซึ่งทำให้เมืองมีชีวิตชีวาและคึกคักขึ้นอย่างมาก




และอีกไม่ในกี่วันนี้ การแข่งขันก็จะเริ่มต้นขึ้น แต่เรายังคงได้เห็นงานก่อสร้างอยู่ตามพื้นที่รอบๆสนามแข่งขัน เหลือบไปดูสนามแข่งขี่ม้าก็ยังมีคนงานเดินเข้าเดินออกตลอดทั้งวันทั้งคืน เพราะวันพรุ่งนี้ (24 กค.) จะเป็นวันที่ม้ากีฬาจะทยอยเดินทางเข้ามาที่สนามแข่งและอยู่ยาวจนกระทั่งการแข่งขันจบ เรียกได้ว่าเตรียมงานกันจนวินาทีสุดท้ายเลยทีเดียว  






สุดท้ายเป็นห้องใต้ดินของทีมงาน Horsemove ครับ  แล้วพบกันใหม่

ENJOY THE MOVE!