Monday, August 27, 2012

Sunday, August 26, 2012

Competition Results: President's Cup Eventing 2012 by Muang Thai Life Assurance


ถ้วยรางวัลจากนายกสมาคมขี่ม้าฯ President's Cup 2012 ประเภทอีเวนท์ติ้ง ในระดับ CNC 2* หรือระดับสองดาว 


ขอต้อนรับเมืองไทยประกันชีวิต สู่วงการขี่ม้า

ต้องขอต้อนรับและขอบคุณบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต ที่เล็งเห็นความสำคัญและสนับสนุนการแข่งขันขี่ม้าอีเวนท์ติ้ง ซึ่งทางเมืองไทยประกันชีวิตให้การสนับสนุนน้องณีนามาตั้งแต่การแข่งขันโอลิมปิค ที่ลอนดอน และต่อเนื่องมาในรายการแข่งขัน President's Cup คราวนี้ด้วย 

การแข่งขันชิงถ้วยนายกสมาคมขี่ม้าฯ President's Cup 2012 ประเภทอีเวนท์ติ้ง สนับสนุนโดย เมืองไทยประกันชีวิต และความร่วมมือจากน้องณีนา นักกีฬาขี่ม้าโอลิมปิค และครอบครัว ล่ำซำ-ลิเกิ้น  จัดขึ้นเมื่อวันที 24-26 สิงหาคมที่ผ่านมา  สโมสรไทยโปโล พัทยา

ผู้สนับสนุนหลักของรายการ ได้แก่ เมืองไทยประกันชีวิต  อาหารม้าแม็กซ์วิน และสโมสรไทยโปโลแอนด์อีเควสเทรี่ยนคลับ


Eventing ระดับ 2 Star กลับมาแล้ว

ประเทศไทยได้ห่างหายจากการจัดการแข่งขันอีเวนท์ติ้งระดับสูงไปนานกว่าสิบปี ในการแข่ง President's Cup 2012 Eventing ครั้งนี้ทางสมาคมขี่ม้าฯได้ยกระดับการแข่งขันจากระดับ 1 Star ไปเป็นระดับ 2 star เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานกีฬาอีเวนท์ติ้งในประเทศ รวมถึงเป็นการเตรียมตัวนักกีฬาทีมชาติไทยสู่การชิงชัยเหรียญรางวัลในเอเชียนเกมส์ปี 2014 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลี

1 Star VS 2 Star แตกต่างกันอย่างไร?

ในระดับ 2 Star ความยากต้องมากกว่า1 Star แน่นอนครับ  เริ่มจากการแข่งขันศิลปการบังคับม้าในวันแรกจะเป็นการแข่งขันที่ระดับ Elementary โดยเพิ่มท่าบังคับต่างๆ เช่น shoulder-in, travers, simple change และ counter canter เข้าไปในเทสต์ด้วย  ส่วนที่เป็นหัวใจของอีเวนท์ติ้ง ซึ่งก็คือการแข่งCross Country ความยากก็จะเพิ่มขึ้น จากความสูงของเครื่องกระโดดเดิมที่ 110 cm กลายเป็น 115 cm ในขณะที่ความยาวของระยะทางที่ต้องขี่จะอยู่ระหว่าง 2,800-3,600เมตร  ความเร็วที่ใช้ขี่อยู่ที่ 550 เมตรต่อนาที (ใน 1 Star จะใช้ speed อยู่ที่ 520 เมตรต่อนาที) สุดท้ายใน Show Jumping เครื่องกระโดดจะเพิ่มความสูงเป็น 120 cm

2 Star ที่รอคอย

ตอนแรกผมไม่คาดคิดเลยว่าจะมีนักกีฬาอีเวนท์ติ้งลงแข่งขันในระดับ 2 Star กันพร้อมหน้าอย่างนี้ (ทั้งครูภาพ บอมบ์  ไอซ์   มิ้น  หรือแม้แต่ น้องนัท) จากการพูดคุยกับนักกีฬาส่วนใหญ่ พวกเขาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้รอที่จะแข่งขันในระดับนี้มานานแล้ว เพราะท้าทายความสามารถและจะได้เตรียมตัวไปสู่เอเชียนเกมส์อีกด้วย

บอมบ์ คว้าถ้วย President's Cup ไปครองสำเร็จ

ต้องบอกว่าเป็นการแข่งที่สูสีกันตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะคะแนนรวมตั้งแต่วันแรก (ศิลปการบังคับม้าและกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง) นักกีฬาในลำดับที่ 1-4 มีคะแนนห่างกันเพียงไม่กี่คะแนน จึงต้องวัดกันในสนาม Cross Country ซึ่งเป็นการแข่งขันประเภทสุดท้าย  ซึ่งบอมบ์และครูสุภาพ (ต้องเรียกว่า ว่าที่ร้อยตรีสุภาพแล้วนะครับ :) ) ทำผลงานออกมาได้อย่างดี โดยมีคะแนนเสียจากเวลาเท่านั้นในรอบนี้ ที่คนละ 5.6 และ 4.8 ตามลำดับ   แต่บอมบ์ก็ยังเฉือนคว้าชัยไปครองได้สำเร็จเพราะมีคะแนนนำโด่งอยู่จากการเป็นผู้นำในวันแรก

แชมป์รายการ President's Cup 2012 ประเภทอีเวนท์ติ้ง ในระดับ CNC 2* วีรภัฏ ปิฏกานนท์ กับ Monarch Royal Touch

สุภาพ ขาวงาม กับม้า Ardbohill Lad ทำคะแนนเสียใน Cross Country ได้น้อยที่สุดในรุ่น CNC 2*

น้องมินท์ ธนภรณ์ ชวตานนท์ กับม้า Achilles แชมป์รายการ CNC 1*

มิ้นท์นำม้วนเดียวจบในระดับ 1 Star

น้องมิ้นท์กับเจ้าAchilles F. นำม้วนเดียวจบโดยขึ้นเป็นผู้นำตั้งแต่Dressage (มีคะแนนเสีย 52.8) และเคลียร์ทั้ง Jumping และ Cross country  ทำให้แมททิวที่ตามมาเป็นที่สองไล่ตามไม่ทัน แต่ต้องบอกว่าแมททิวกับคู่ขาใหม่อย่างเจ้าAragonกำลังทำผลงานได้ดีขึ้นทุกครั้งที่ลงแข่ง ต้องจับตามองการพัฒนาของคู่นี้ต่อไป


HMT Best  XC  Rider เฉือนกันแค่เสี้ยววินาที

ในกีฬาเหรียญทองของไทยอย่างอีเวนท์ติ้ง HorseMove ก็มีรางวัลพิเศษเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่นักกีฬาของเราครับ โดยมอบให้แก่นักกีฬาที่ไม่มีคะแนนเสียในCross Country และใช้เวลาใกล้กับเวลาที่กำหนดไว้ (Optimum time) มากที่สุด  ซึ่งต้องตัดสินกันเป็นเสี้ยววินาทีทีเดียว เพราะมีนักกีฬาหลายคนที่ขี่ได้ตามเวลาที่กำหนด  แต่น้องมิ้นท์ขี่ได้ใกล้กับ optimum time มากที่สุด จึงครองรางวัลนี้ไป

คุณต่อ เฉลิมฉาน ยศวิริยะพาณิชย์ จาก HorseMove Thailand มอบรางวัล HMT Best XC Rider ให้แก่น้องมินท์ ธนภรณ์ ชวตานนท์ ที่สามารถเคลียร์ราวด์ได้ใน Cross Country และทำเวลาได้ใกล้ optimum time มากที่สุด

ทวีทรัพย์ ดวงมนตรี กับม้า Luelon แชมป์อีเวนท์ติ้งในรุ่น Preliminary


President's Cup Eventing 2012 Results: CNC 2star
  
President's Cup Eventing 2012 Results: CNC 1star
  


Wednesday, August 22, 2012

Competition Schedule: President's Cup 2012 - Eventing




กลับมาอีกครั้งกับการแข่งขันประจำปีชิงถ้วยนายกสมาคมขี่ม้าฯ President’s Cup 2012 ในการแข่งขี่ม้าประเภท Eventing

กระแสการแข่งขันโอลิมปิคและความตื่นเต้นยังไม่จางหาย การแข่งขัน President’s Cup ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคม 2555 ที่สนามไทยโปโล พัทยา นักกีฬาEventingไทยก็มีโอกาสได้แสดงฝีมือกันอีกครั้ง!

การแข่งขัน President’s Cup 2012 นี้ มี “เมืองไทยประกันชีวิต” หนึ่งในผู้สนับสนุน ณีนา ล่ำซำ ลิเก้ิน นักกีฬาโอลิมปิคของไทยไปแข่งขันที่ลอนดอน เป็นผู้สนับสนุนหลัก นอกจากนี้ เมืองไทยประกันชีวิต ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของกีฬาขี่ม้าอีเวนท์ติ้ง ที่ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการแข่งขันระดับนานาชาติ และเพื่อส่งเสริมการพัฒนากีฬาและนักกีฬาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ประสานงานกับ น้องณีนา ครอบครัวล่ำซำ-ลิเกิ้น และ Team Thailand ในการสนับสนุนกีฬาขี่ม้าอีเวนท์ติ้งให้มีการแข่งขันถึง 3รุ่น ได้แก่ CNC 2* , CNC 1* และ รุ่น Preliminary

ไฮไลท์ของการแข่งขันจะอยู่ที่รุ่น CNC 2* ที่เป็นยกระดับมาตรฐานอีเวนท์ติ้งในประเทศไทยขึ้นอีกขั้น โดยการแข่งขันระดับ 2star นี้ มีระดับความยากเท่าเทียมกับการแข่งขันเอเชียนเกมส์คราวหน้า (ปี 2014) ที่จะมีขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้ สำหรับประเทศไทยนั้น ห่างหายจากการแข่งขันในระดับ 2 star มามากกว่า10 ปีแล้ว นี่จึงเป็นโอกาสดีที่นักกีฬาไทยจะได้ทดสอบสมรรถภาพในการไต่ระดับให้สูงขึ้นและเตรียมความพร้อมในการสู้ศึกเอเชียนเกมส์ล่วงหน้า

สำหรับรางวัลการแข่งขัน นอกจากถ้วยรางวัลจากนายกสมาคมขี่ม้าฯแล้ว ยังมีรางวัล Best Cross Country Rider (HMT Best XC Rider) ที่สนับสนุนโดย HorseMove Thailand โดยเราจะมอบรางวัลเงินสด 3,000บาทให้แก่นักกีฬาที่สามารถขี่ครอสคันทรี่ได้ดีที่สุด ซึ่งตัดสินจากการนักกีฬาที่ไม่มีคะแนนเสียในการกระโดด และทำเวลาใกล้เวลาที่กำหนด (Optimum Time)ได้มากที่สุด

พี่ๆน้องๆที่ยังไม่หายตื่นเต้นจากการแข่งโอลิมปิค สามารถมาช่วยให้กำลังใจนักกีฬาขี่ม้าอีเวนท์ติ้งไทยได้ที่สนามไทยโปโล ในวันที่ 24-26 ส.ค.ครับ  ผมเชื่อว่า สักวันหนึ่งพวกเขาจะสามารถก้าวไปสู่ระดับโอลิมปิคอย่างน้องณีนาได้แน่นอน :)


การแข่งขันประจำปีชิงถ้วยนายกสมาคมขี่ม้าฯ President’s Cup 2012 Eventing

Tuesday, August 21, 2012

เมือง Aachen เตรียมพร้อมการแข่งขันขี่ม้ามหาวิทยาลัยโลก WUEC 2012 ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 22-26 สค.นี้


เมื่อได้ยินคนพูดถึง Aachen คุณจะนึกถึงอะไรก่อน? 

© Stadt Aachen / FB Presse und Marketing, Fotograf: Andreas Herrmann

คนในวงการขี่ม้าส่วนใหญ่ ยกให้ Aachen เมืองเก่าแก่ของประเทศเยอรมนี เป็น “เมืองม้า”! 

สาเหตุหลักคงมาจากความโด่งดังของเมืองนี้ ที่เป็นเจ้าภาพงานแข่งขันขี่ม้ารายการใหญ่ๆระดับโลกมานับไม่ถ้วน นับรวมถึงรายการ World Equestrian Games ปี 2006 ที่เค้าว่ากันว่า ยิ่งใหญ่กว่า London Olympic Games และสนามสามารถจุคนได้ถึง 45,000 คน!! 

WUEC Venue © 2011 ALRV/Anselm Cosler

 WUEC Venue © 2010 ALRV/Anselm Cosler


นอกจากงานประจำปีแล้ว งานใหญ่อีกงานที่กำลังจะจัดขึ้นที่ Aachen คือการแข่งขันขี่ม้าของมหาวิทยาลัยโลก หรือ World University Equestrian Championships 2012 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 แล้ว และกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 22 สค.นี้ โดยผู้เข้าแข่งขันคือนักกีฬาอายุระหว่าง 17-28 ปีที่กำลังศึกษาหรือจบการศึกษาจากสถาบันที่ได้รับการรับรองจากประเทศที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน โดยนักกีฬาจะต้องถือสัญชาติของประเทศที่ส่งเข้าแข่งขันด้วย และแต่ละประเทศสามารถส่งนักกีฬาได้เพียงแค่ 3 คนเท่านั้น


WUEC banner with all the nation flags. Photo via WUEC Facebook Page.

Full of energy! - WUEC 2012 Team © Hochschulsportzentrum der RWTH Aachen

University students teamed up as the public relations-team for the WUEC 2012 in Aachen. Photo via WUEC Facebook Page.

สำหรับกฎการแข่งขัน จะมีการนับคะแนนรวมจากการแข่งขันในสองประเภทกีฬา คือ Dressage และ Jumping เพื่อชิงชัยถึง 4 รางวัล คือ
1. Individual World Champion of Student Riding (individual combined ranking) 
2. Individual World Champion of Student Riding in Dressage (individual 
Dressage ranking)
3. Individual World Champion of Student Riding in Show Jumping (individual 
Show Jumping ranking) 
4. Team World Champion of Student Riding (team combined ranking)

ส่วนม้าที่จะใช้แข่งขันจะเป็นม้าจับฉลาก โดยจะมีการจับฉลากเลือกม้าก่อนการแข่งขันทุกรอบๆ

การแข่งขัน WUEC นี้ ระบบการแข่งขันค่อนข้างละเอียดและเป็นไปตามหลักสากลทั่วไป แต่ที่น่าสนใจก็คือ ในกีฬา Show Jumping นั้นจะมีการให้คะแนน Style Mark เข้าไปเป็นคะแนนเก็บของหลายๆรอบในการแข่งขันด้วย โดยหลักเกณฑ์การให้คะแนน ประกอบไปด้วยคะแนน 3 ข้อหลัก ซึ่งจะถูกนำมาหาค่าเฉลี่ยเพื่อหาเป็นคะแนนรวม Style Mark ในรอบนั้นๆต่อไป

1. Presentation + techniques: salute of the judges, balance of the rider, 
correctness, use and effect of the aids
2. General way of riding: harmony between the rider and the horse, way of  riding between two fences, correctness of the turns
3. General impression


มี Style Mark อย่างนี้ยิ่งทำให้น่าสนุกเข้าไปใหญ่  เพราะนอกจากเราจะได้ลุ้นนักกีฬาในการแข่งขันแล้ว เรายังได้เรียนรู้ไปด้วยว่า Style แบบไหนที่ได้คะแนนเยอะหรือน้อย ซึ่งก็แปลว่าเราสามารถเรียนรู้ทักษะการกระโดด หรือสไตล์การขี่ที่ถูกต้อง จากคะแนนที่กรรมการให้ไปในตัวด้วย :)

ในส่วนของประเทศที่เข้าร่วมแข่งขัน มีอยู่ด้วยกัน 26 ประเทศซึ่งถือว่ามากเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ และมีนักกีฬาเอเชียเข้าร่วมด้วยกันสองประเทศ คือ ญี่ปุ่น และ เกาหลี 

สำหรับประเทศไทย เคยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันมาแล้ว เมื่อปี 2004 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และล่าสุดเมื่อปี 2010 ที่ Kangju ประเทศเกาหลี 

Horsemove จะติดตามความคืบหน้าและคอยรายงานผลมาให้ทราบกันนะครับ

ENJOY THE MOVE!


**********************************


COMPETITION SCHEDULE

Tuesday, August 21st 2012
  • 05:00 pm Technical Meeting
Wednesday, August 22nd 2012
  • 01:00 pm 1. Round Dressage
  • 06:00 pm Opening Ceremony
  • 07:30 pm Get-together, Aachener Soers
Thursday, August 23rd 2012
  • 08:00 am 2. Round Dressage
  • 02:00 pm 3. Round Dressage
  • 06:30 pm Aachen Night for the delegations
  • Wine-Festival Aachen
Friday, August 24th 2012
  • 08:00 am 1. Round Jumping
  • 04:00 pm Cultural Program for the delegations
  • 10:00 pm Riders Ball
Saturday, August 25th 2012
  • 08:00 am 2. Round Jumping
  • 11:30 am 3. Round Jumping
  • 02:30 pm Semi finals Jumping
  • 04:45 pm Semi finals Dressage
  • 08:00 pm Riders' Ball
Sunday, August 26th 2012
  • 08:00 am Finals Dressage
  • 01:00 pm Finals Jumping
  • 05:00 pm Medal Awarding Ceremony and Closing Ceremony
  • 06:30 pm Get-Together, Aachener Soers
Monday, August 27th 2012
  • 08:00 am Departure

บทสรุปกีฬาขี่ม้าโอลิมปิค Final Review #3 - Eventing Olympics



การแข่งขันอีเวนท์ติ้งในโอลิมปิค ทำให้รู้ว่ากีฬาประเภทนี้เป็นเกมส์การแข่งขันที่นักกีฬาต้องเก่งรอบด้านจริงๆ 

เยอรมนีเก๋าสุด  Germany RULES the Eventing World! 

Olympic Eventing Gold Medalist - Michael Yung GER and Sam

Michael Jung นักกีฬาชาวเยอรมัน วัย 30 ปี ผู้ชนะเหรียญทองในคราวนี้ เป็นนักกีฬาระดับสุดยอดของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย  ก่อนหน้านี้ เค้าเป็นแชมป์WEG 2010 เป็นแชมป์ European Championships 2011 และล่าสุดเป็นแชมป์โอลิมปิคปี 2012 นี้ด้วย โดยครองถึงสองเหรียญทองทั้งในประเภททีมและประเภทบุคคล ทำให้เค้ากลายเป็นสุดยอfนักกีฬาอีเวนท์ติ้งอย่างแท้จริง  

นอกจากการเป็นยอดฝีมือในการขี่ Cross Country แล้ว  Jung ยังเป็นนักกีฬาอีเวนท์ติ้งที่สามารถขี่ Dressage ได้ดีในระดับ Grand Prix และเป็นนักกีฬาที่กระโดดได้ในระดับ 160 cm  แถมยังสามารถขี่ภายใต้สภาวะกดดันๆได้เป็นอย่างดี แข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจจริงๆ เพราะท่ามกลางเสียงเชียร์อย่างฮึกเหิมของสาวก Team GB ตลอดสามวันก็คงทำให้นักกีฬาไหวหวั่นได้เหมือนกัน แต่ Jung ก็ยังสามารถทำผลงานอย่างดีที่สุดได้

ในโอลิมปิคครั้งนี้ นอกจากผมจะชื่นชมนักกีฬาเยอรมันแล้ว ต้องบอกว่าอีกสองประเทศที่ผมประทับใจมากมากๆ คือนักกีฬาจากนิวซีแลนด์และสวีเดน 

สำหรับทีม NZL ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็น Andrew Nicholson ที่ทำคะแนนได้คงที่มากๆ ไม่มีคะแนนเสียเพิ่มเลยจากวันแรกเลยจนวันสุดท้าย และมีคะแนนเสียน้อยที่สุดในทีม รวมถึง Mark Todd นักกีฬาดีกรีสองเหรียญทองโอลิมปิค ที่อายุถึง 56 ปีและผ่านเวทีระดับโลกมานับไม่ถ้วน ก่อนหน้านี้เค้าเลิกขี่ม้ามาเกือบ 8 ปีและมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในปี 2008 ซึ่งผลงานก็โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆและครั้งนี้ที่ลอนดอนโอลิมปิค เค้าและ Andrew ก็นำทีมคว้าชัยเหรียญทองแดงมาอีกจนได้


Andrew Nicholson NZL and Nereo finished fourth in Individual.

ส่วนสวีเดน Sara Algotsson Ostholt ภรรยาของทีมชาติเยอรมัน Frank Ostholt ที่คว้าเหรียญเงินประเภทบุคคลมาครองสามารถทำคะแนนนำโด่งมาได้ตั้งแต่วันแรก และไม่มีคะแนนเสียเลย จนมาพลาดท่าในวันแข่งรอบ Jumping Final ที่เธอเตะเครื่องกระโดดเครื่องสุดท้ายไปทำให้เหรียญทองตกเป็นของMichael Jung โดยปริยาย


Sara Algotsson Ostholt and Wega from Sweden riding in the real top form. They are also one of my favourite pairs!

USA-AUSTRALIA จบข่าว! ตัวเก็ง ม้าเจ็บ-ตกม้า

เป็นที่น่าเสียดายที่ประเทศเด่นๆอย่างสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ที่มีจุดแข็งในกีฬาขี่ม้าประเภทอีเวนท์ติ้งมากที่สุดกลับไม่สามารถคว้าเหรียญกลับบ้านได้เลยซักเหรียญ

สำหรับทีมออสเตรเลียประกอบด้วยนักกีฬาทีมชาติมากประสบการณ์ที่เก็บตัวอยู่ในอังกฤษล้วนๆ ตัวหลักของทีมเห็นจะเป็น Clayton-Lucinda Fredericks  สองสามีภรรยาที่คว้าเหรียญเงินโอลิมปิค ปี 2008 และพี่ใหญ่อย่าง Andrew Hoy ที่มีดีกรีถึงสามเหรียญทองโอลิมปิค และครั้งนี้ก็เป็นโอลิมปิคครั้งที่ 7 แล้วด้วย  ทำให้ทีมชาติออสเตรเลียน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย  แต่ในการแข่งขัน ผลงานในวันครอสคันทรีถูกพลิกล็อคเมื่อมีนักกีฬาทีมชาติออสซี่สองคนพลาดตกจากม้า (Clayton Fredericks กับ Sam Griffiths) เลยเป็นเหตุให้ทีมออสเตรเลียต้องหลุดโผไปโดยปริยาย

ส่วนทีม USA นั้นก็มีนักกีฬาโพรไฟล์ดีๆทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสองคนเด่นที่อดีตเป็นคนออสเตรเลีย คนแรก Phillip Dutton แชมป์โอลิมปิคสองสมัยของทีมออสเตรเลีย ที่เริ่มแข่งในนามทีมชาติอเมริกาเมื่อโอลิมปิคที่แล้ว อีกคนคือ Boyd Martin หนุ่มไฟแรงลูกครึ่งออสเตรเลีย-อเมริกัน ที่ย้ายมาอยู่อเมริกาและทำผลงานได้ดีทั้งใน WEG 2010 และ Kentucky CCI 4* 2012  นอกจากนี้ในทีมยังมี Karen O’Connor ที่มีประสบการณ์เข้าแข่งโอลิมปิคถึง 5 ครั้ง และเคยคว้าทั้งเหรียญเงินและเหรียญทองประเภททีมมาแล้วด้วย  อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าตั้งแต่วันแรกในการแข่งขัน Dressage ทีมชาติอเมริกาไม่สามารถตีตื้นคะแนนขึ้นมาได้เลย และในวัน trot up ก่อนการแข่งขันกระโดด Boyd Martin ก็ต้องขอถอนตัวเพราะม้าเจ็บอีก ทำให้หมดสิทธิ์ลุ้นเหรียญรางวัลไปอีกทีม

อายุเป็นเพียงตัวเลข ประสบการณ์สำคัญที่สุด

ไม่ใช่แค่กีฬาขี่ม้าเท่านั้นหรอกครับ ทุกประเภทกีฬาในโลกนี้ต่างต้องอาศัยประสบการณ์ด้วยกันทั้งนั้น จะเห็นได้ว่านักกีฬาที่ได้มาแข่งโอลิมปิคส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาที่ถูกคัดสรรมาแล้วว่ามีความเก๋าเกมส์ เก๋าฝีมือ เก๋าเทคนิค และก็พร้อม “ชน” กับชาติคู่แข่งแบบไร้กังวัล 


Mary King GBR riding Imperial Cavaliar at the age of 51!

แต่สำหรับกีฬาขี่ม้า ข้อได้เปรียบอย่างนึงที่เห็นได้ชัดคือกีฬาชนิดนี้สามารถเล่นได้ในช่วงอายุยาวนานมาก สังเกตได้จากนักกีฬาในโอลิมปิครอบนี้ เช่น Mark Todd หรือ Mary King ที่วัยเกือบจะ 60 แล้ว แต่ก็ยังขี่ม้าลงแข่งขันอยู่บ่อยๆ  ยิ่งนักกีฬาอายุมาก ผ่านการแข่งมามาก ประสบการณ์ในการขี่ก็สูงไปด้วย ทำให้สามารถใช้ความเก๋าเอาตัวรอดและสร้างผลงานที่ดีที่สุดได้ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้คาดฝันมาก่อนก็ตาม


At age 56, Mard Todd became the oldest rider in Eventing competition at London Olympics. Todd and Campino riding for New Zealand.

ข้อหา “ม้าสำเร็จรูปกับการเข้าสู่โอลิมปิค”

ม้านั้นสำคัญไฉน....ทั้งม้าเทพ ม้าประสบการณ์สูง ต่างเป็นที่ต้องการของนักกีฬาเพื่อให้ได้ก้าวไปตามฝัน

ต้องรู้ไว้ก่อนครับว่า กีฬาอีเวนท์ติ้งเป็นกีฬาที่ต้องใช้เทคนิคถึงสามอย่างและยาวนานถึงสามวัน ถือเป็นบททดสอบที่หินเอามากๆ และหากนักกีฬาและม้าไม่เจ๋งจริงแถมโชคไม่เข้าข้างอีก เป้าหมายที่ตั้งไว้ของแต่ละคนก็อาจจะคลาดเคลื่อนได้ไม่มากก็น้อย  ถ้าคนขี่เก่งแต่ม้ายังไม่ถึงขั้น การจะก้าวขึ้นไปสู่ระดับสูงๆด้วยกันก็คงยาก ในทางตรงกันข้าม คนขี่รุ่นใหม่ไฟแรงที่มีทักษะสูง แต่ประสบการณ์น้อย ได้ขี่ม้าที่เก่งก็คงมีสิทธิ์ได้ทำตามเป้าที่สูงขึ้นเหมือนกัน เพราะฉะนั้น คงไม่แปลกที่เราได้เห็นนักกีฬาทีมชาติหลายคนควานหาม้าใหม่กันให้วุ่นก่อนการแข่งขันโอลิมปิคจะเริ่มขึ้น เพราะนักกีฬาเหล่านั้นต่างก็มีโอกาสควอลิฟายด์ไปถึงโอลิมปิคและสามารถลุ้นเหรียญรางวัลได้ด้วยกันทั้งนั้น  

>>Phillip Dutton นักกีฬาชาวอเมริกันที่แปลงสัญชาติมาจากชาวออสซี่ ใช้ม้าMystery Whisper ที่ลูกศิษย์ของเค้าซื้อมาจาก Heath Ryan เทพอีกคนของทางออสเตรเลีย ในช่วงกลางปี 2011 

>>Karen O’Connor นักกีฬาชาวอเมริกัน ภรรยาของเทพสุดอย่าง David O’Connor ที่เป็นโค้ชทีมชาติอีเวนท์ติ้งของแคนาดา ถอยม้า Mr Medicott ม้าเก่าของทีมชาติเยอรมัน Frank Ostholt ที่มีดีกรีเหรียญทองทีมจากโอลิมปิคปี 2008 ที่ฮ่องกง มาเมื่อปลายปี 2011 เพื่อใช้ในโอลิมปิค 


Karen O'Connor USA on Mr Medicott.

>>Boyd Martin ลูกศิษย์ก้นกุฏิของHeath Ryan ที่เปลี่ยนสัญชาติจากชาวออสซี่มาแข่งในนามทีมชาติอเมริกันอีกคน ได้ซื้อม้า Otis Barbotiere จาก Aurelien Kahn  ทีมชาติโอลิมปิคของฝรั่งเศส เมื่อปี 2011

>>Ronald Zabala นักกีฬาชาวเอกวาดอร์ เจ้าของบริษัทประกันภัย ที่รักการขี่ม้าและทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับการซ้อมเพื่อควอลิฟายด์โอลิมปิค ได้ซื้อ Master Rose ม้าเก่าของเทพชาวอังกฤษ Oliver Townend  เพื่อไปฝึกและเก็บตัวกับ Phillip Dutton ที่อเมริกา

>>Nina Lamsam Ligon นักกีฬาชาวไทย ที่ถอยม้า Butts Leon เมื่อกลางปี 2011 หลังได้แชมป์ Luhmuhlen CCI 4* กับนักกีฬาชาวเยอรมัน Andreas Dibowski ตัดสินใจเลือกม้าตัวนี้ในการแข่งขันโอลิมปิคแทนที่ม้าตัวอื่นๆที่เธอฝึกมาเองกับมือ  เพราะButts มีประสบการณ์มากที่สุด

>>Samantha Albert นักกีฬาชาวจาไมก้าที่อาศัยอยู่ที่อังกฤษ ได้เช่าม้า Carraig Dubh จากนักกีฬาทีมชาติอังกฤษ Tina Cook เมื่อปลายปี 2011 เพื่อแข่งขันโอลิมปิค


Nina Lamsam Ligon and Butts Leon represented Thailand in this 2012 Olympics.

อย่างไรก็ดี ในกีฬาขี่ม้าที่ต้องแข่งขันกันเป็น “คู่”  ลำพังแค่ม้าซึ่งเป็นส่วนประกอบส่วนเดียวคงไม่สามารถทำให้ “กีฬาคู่” แบบนี้ประสบความสำเร็จไปได้ถึงฝั่งฝัน เพราะหากคนขี่่ไม่สามารถปรับจูนและทำความเข้าใจกับม้าของตนได้ตั้งแต่ต้น เราก็คงไม่ได้เห็นผลงานดีีๆจากนักกีฬาขี่ม้าที่กล่าวไปนี้ในโอลิมปิคที่ลอนดอนหรอกครับ 

สรุปว่าไม่มีอะไรที่ “สำเร็จรูป” มาตั้งแต่ต้นแน่นอน...

Results (via london2012.com): 

Gold - Germany (Sandra Auffarth/Michael Jung/Ingrid Klimke/Peter Thomsen/Dirk Schrade/)   133.70 pen.
Silver - Great Britain (Zara Philips/Mary King/Kristina Cook/William Fox-Pitt/Nicola Wilson)      144.40 pen.
Bronze - New Zealand (Jonathan Paget/Andrew Nicholson/Mark Tod/Jonelle Richards/Caroline Powell)  148.40 pen.


Gold - Michael Jung GER & Sam                 40.60 pen.

Silver - Sara Algotsson Ostholt & Wega     43.30 pen.
Bronze - Sandra Auffarth & Opgun Louvo  44.80 pen.


Monday, August 20, 2012

Competition Results: President's Cup 2012 (Show Jumping & Dressage) & the 1st qualifier for Thailand Show Jumping Championships 2013

Siengsaw Lertratanachai claimed another victory in Showjumping competition at the President's Cup 2012! She also leads in the 1st qualifier of Thailand Senior Jumping Championships 2013, which started off this weekend. 

Winner of President's Cup 2012 in Show Jumping, Siengsaw and Victory B.

Siengsaw also won the second place with another horse Elmo BB.

Pornsri Prachuabmoh and her new handsome mount Adriano took the third place in President's Cup 2012.

There are 8 jumping rounds for Thailand Championships 2013 Jumping Series (Senior, Young Rider, Junior, Sub Junior) and the Final competition will take place at Thai Polo & Equestrian Club Pattaya in May 2013. 

The next qualifier will be held on 30 August - 2 September during the Horse Guard Cup. 



Competition Results: PRESIDENT'S CUP 2012 Showjumping & Dressage (Part 1)
  
Competition Results: PRESIDENT'S CUP 2012 Showjumping & Dressage (Part 2)
  

Sunday, August 19, 2012

บทสรุปกีฬาขี่ม้าโอลิมปิค Final Review #2 - Jumping Olympics

การแข่งขันกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางมักจะสนุกและตื่นเต้นอยู่แล้ว แต่ในโอลิมปิคครั้งนี้เราได้เห็นการรวมตัวของเหล่าเทพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Pius Schwizer SUI, Marcus Ehning GER, Rodrigo Pessoa BRA, Rich Fellers USA, Kevin Staut FRA, Eric Lamaze CAN ทำให้การแข่งขันนี้น่าตื่นเต้นขึ้นไปอีกเพราะผลการแข่งขันน่าจะสูสีเอามากๆ  อย่างไรก็ดี ข้อดีของกีฬาประเภทนี้คือยังมีโอกาสเปิดกว้างให้กับทุกประเทศได้ลุ้นเหรียญรางวัลกันอยู่เรื่อย เพราะนักกีฬาสามารถทำคะแนนพลิกล็อคกันได้ง่ายๆ  เราจึงไม่สามารถคาดเดาผลการแข่งขันได้เลย ต้องดูและลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ แบบห้ามกระพริบตาเลยทีเดียว

Gold for Team GB

คุ้มกับการรอคอยสำหรับเหรียญทองเหรียญนี้จริงๆ เพราะครั้งสุดท้ายที่อังกฤษคว้าเหรียญทองกระโดดก็เมื่อ 60 ปีที่แล้วในโอลิมปิคปี 1952 ที่เมืองเฮลซิงกิ (Helsinki) ประเทศฟินแลนด์  


The British Olympic gold medal winning team. Photo courtesy of Kit Houghton/FEI.

จริงๆแล้ว ทางฝั่งเจ้าภาพก็เตรียมตัวทำการบ้านมาเป็นอย่างดีสมกับรางวัลเหรียญทอง สำหรับทีมกระโดดของอังกฤษคราวนี้ เป็นลูกผสมระหว่างนักขี่ม้ารุ่นเก่ามากประสบการณ์ อย่าง Nick Skelton และ Peter Charles กับนักกีฬาวัยรุ่นไฟแรง ทั้งBen Maher และหนุ่มน้อยน้าใส Scott Brash ซึ่งทุกคนในทีมสามารถโชว์ฟอร์มการขี่ได้อย่างสุดยอดจนได้ไปถึงรอบ Jump off กับทีมเนเธอร์แลนด์ที่มีคะแนนเสียเท่ากัน จนในที่สุดก็เฉือนเอาชนะทีมเนเธอร์แลนด์ไปอย่างสุดมันส์ ส่วนในลำดับที่ 3 เป็นของทีมจากซาอุดิอาราเบีย (KSA) ชาติเอเชียที่มีจุดแข็งในกีฬาประเภทนี้ ซึ่งเรามักจะเห็นนักกีฬาจาก KSA ได้เหรียญโอลิมปิคเป็นประจำอยู่แล้ว 

อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าแปลกใจว่า ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างเยอรมนี ต้องหลุดโผไปอย่างน่าเสียดายเพราะทำผลงานได้ไม่ดีนัก 

ม้ามืด Steve Guerdat?

ในรอบสุดท้าย คงไม่มีใครคิดว่านักกีฬาหนุ่มจากสวิตเซอร์แลนด์จะคว้าเหรียญทองประเภทบุคคลไปได้ เพราะคนขี่ที่มีฟอร์มร้อนแรงที่สุดคือ Nick Skelton จากประเทศเจ้าภาพ และในรอบทีม เขาก็ยังไม่ได้เตะเครื่องกระโดดเลยซักเครื่อง

  

Steve Guerdat (SUI) and Nino des Buissonnets, 2012 Olympic Jumping individual champions. Photo courtesy of Kit Houghton/FEI.


Nick Skelton (GBR) riding Big StarPhoto courtesy of Kit Houghton/FEI.

ย้อนกลับไปในรอบ Final Round A มีนักกีฬาเคลียร์ราวด์ถึง 7 คน แต่ใน Final Round B  ทาง Nick Skelton ซึ่งแข่งหลังจาก Steve Guerdat ที่เคลียร์ราวด์ไปแล้ว เข้าสนามด้วยฟอร์มกระโดดที่ดี แต่ขาหลังของม้าพลาดเขี่ยเครื่องตกลงไป จึงทำให้ตัวเค้าเองหมดสิทธิ์คว้าเหรียญทองประเภทบุคคลไป (ถึงแม้ความผิดพลาดครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของ Nick Skelton ในการแข่งขันรวมทุกรอบที่ผ่านมาก็ตาม)  

สำหรับในอันดับที่สองเป็นการปะทะกันระหว่าง Gerco Schroder จากเนเธอร์แลนด์ และ Cian O’Connor จากไอร์แลนด์ ที่ทำคะแนนเสียรวมเท่ากันในทั้งสองรอบ จึงต้องมาตัดสินใน Jump off โดยในการแข่งขันกันรอบนี้ Cian เกือบจะคว้าเหรียญเงินมาได้ เพราะเขาสามารถทำเวลาจากการขี่ได้เร็วกว่า Gerco แต่โชคไม่เข้าข้างพลาดเตะในเครื่องสุดท้าย ทำให้ได้เหรียญทองแดงไปในที่สุด


The London 2012 Olympic Jumping individual medallists: (left to right) Gerco Schroder (NED) - Silver, Steve Guerdat (SUI) - Gold, Cian O'Connor (IRL) - Bronze. Photo courtesy of Kit Houghton/FEI.


จะว่าไปแล้วถึงชื่อ Steve Guerdat อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่หากใครเคยได้ติดตาม ROLEX FEI World Cup Series 2011/2012 โดยเฉพาะในรอบ Final เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็คงรู้มาคร่าวๆแล้วว่า Steve Guerdat นั้นมีดีกรีเป็นถึงรองแชมป์รายการ World Cup ในขณะที่ Rich Fellers ชาวอเมริกัน ขึ้นแท่นมาเป็นแชมป์คนใหม่ของปีน้ี (แชมป์ปี 2010/2011 คือ Christian Ahlmann จากเยอรมนี)  ส่วนในโอลิมปิค ปี 2008 ที่ฮ่องกง Steve ก็ยังเคยคว้าเหรียญทองแดงประเภททีมมาแล้วด้วย


Course Designer is the KEY


Bob Ellis, Course Designer for Show Jumping Olympics 2012.

ต้องขอบอกว่าการแข่งขันครั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่มีส่วนในการตัดสินผู้ชนะ คือการวางคอร์สกระโดดของBob Ellis ผู้ออกแบบสนามชาวอังกฤษ (Course Designer) ที่ออกแบบเครื่องกระโดดได้อย่างดีเยี่ยม มีเครื่องที่ทดสอบนักกีฬาอยู่ตลอดทั้งคอร์ส และเพิ่มความยากจากรอบแรกจนรอบสุดท้ายได้อย่างน่าดู  อย่างในรอบการแข่งขันประเภทบุคคล มีนักกีฬาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่เตะเครื่องกระโดดเลยตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบสุดท้าย ต้องขอชื่นชมผู้ออกแบบสนามที่สามารถใช้เครื่องกระโดดเป็นบททดสอบในการวัดฝีมือของนักกีฬาได้อย่างแยบยล ทำให้เราสามารถแยกผู้ที่ขี่ได้ดีที่สุดออกจากนักกีฬาคนอื่นๆได้อย่างชัดเจน 

แต่ทั้งนี้ ผมก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นไม่เก่งหรอกนะครับ ทุกคนที่ได้มาแข่งโอลิมปิคล้วนเป็นนักขี่ม้าระดับสุดยอดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าคอร์สกระโดดนี้ใช้วัดว่าใครผ่านบททดสอบต่างๆของผู้ออกแบบได้อย่างมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุดก็จะได้เป็นผู้ชนะไปเท่านั้นเอง ที่ผ่านมาทางผู้ออกแบบสนามก็ได้เปิดช่องให้นักกีฬาได้โชว์ศักยภาพและความสามารถอย่างเต็มที่มาตลอดตั้งแต่รอบแรกอยู่แล้ว


The Beautiful Tower Bridge over the River Thames!!  Photo courtesy of www.arnd.nl/FEI.

นอกจากจะได้ชมการแข่งขันแบบที่ต้องลุ้นตัวโก่งตลอดเวลาแล้ว ผมก็ยังได้เพลิดเพลินไปกับเครื่องกระโดดในสนาม ที่ล้วนแต่จำลองสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆทั่วลอนดอน ตั้งแต่ Trafalgar Square, Houses of Parliament, London Eye, Tower Bridge, Big Ben, London Bus, Stonehenge และอื่นๆอีกมากมาย และที่สนุกกว่านั้นคือการที่มีการปรับเปลี่ยนคอร์สตลอดทุกๆรอบ เรียกว่าใครนั่งอยู่มุมไหนในสนามไม่มีได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะยังไงๆต้องมีซักรอบที่ผู้ชมจะได้เห็นนักขี่ชัดๆทุกมุมครับ :) 

Results (via london2012.com): 

Gold - Great Britain (Nick Skelton/Ben Maher/Scott Brash/Peter Charles)
Silver - The Netherlands (Jur Vrieling/Maikel van der Vleuten/Marc Houtzager/Gerco Schroder)
Bronze - Saudi Arabia (HRH Prince Abdullah Al Saud/Kamal Bahamdan/Ramzy Al Duhami/Abdullah Waleed Sharbatly)

Gold - Steve Guerdat SUI & Nino des Buissonnets 
Silver - Gerco Schroder NED & London  
Bronze - Cian O'Connor IRL & Blue Loyd 12  

Saturday, August 18, 2012

จบโอลิมปิคนี้ มีอะไรให้ดูต่อ?

ผ่านไปได้เกือบอาทิตย์แล้วนะครับ กับการสิ้นสุดของแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ปี 2012 โดยกระแสของการแข่งขัน พิธีเปิด/พิธีปิด การแสดงความยินดีกับนักกีฬาที่ได้เหรียญ และสรรเสริญนักกีฬาทีมชาติและทีมงานเบื้องหลังในลอนดอนเกมส์ ถึงวันนี้ก็ยังฮิตไม่เลิก มีบางคนถึงกับบ่นอุบว่า "หมดโอลิมปิคแล้วจะดูอะไร?!!"... 

จริงๆพูดอย่างนี้ก็ไม่ผิดหรอกครับ เพราะน้อยครั้งที่เราจะได้เห็นการรวมตัวของนักกีฬาหัวกะทิจากทั่วโลกในทุกๆประเภทกีฬา มาแข่งขันในช่วงเวลาเดียวกัน ติดต่อกันยาวนานถึง 2 อาทิตย์ แถมในโลกยุคนี้ ใครอยากจะดูกีฬาอะไรสดจากสนาม ก็ไม่ต้องรอเคเบิลไปซื้อสิทธิ์มา หรือไม่ต้องกังวลเรื่องจอดำกันให้วุ่นวาย เพราะสามารถคลิกไปดูกันสดๆแบบไม่เสียตังค์ได้ที่ www.youtube.com/olympic ทำให้เรื่อง “การกีฬา” กลายเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับชนชาติ วััฒนธรรม และเป็นเรื่องที่ “ไร้พรมแดน” จริงๆ 

พูดถึงกีฬาขี่ม้า หลังจบโอลิมปิค ถ้าอยากดูกันแบบอิ่มอกอิ่มใจ คงต้องรอดูแมทช์ใหญ่(กว่า) อย่างรายการ Alltech FEI World Equestrian Games 2014 โน่นเลย เพราะเค้ารวมกีฬาขี่ม้าทุกประเภทของโลกไว้ด้วยกันถึง 8 ประเภทกีฬา คือ Dressage, Show Jumping, Eventing, Vaulting, Driving, Endurance, Reining, Para-Equestrian (ครบตามที่สหพันธ์ขี่ม้านานาชาติรับรอง ; ส่วนในโอลิมปิคมีเพียง 4 ประเภทเท่านั้น) 

อย่างไรก็ดีสำหรับปี 2012/2013 นี้ ยังมีการแข่งขันกีฬาขี่ม้าอีกหลายรายการที่น่าติดตาม โดยใกล้ๆนี้แมทช์ที่น่าสนใจ คือ งาน Dublin Horse Show ระหว่างวันที่ 15-19 สค.นี้ โดยรายการนี้ มีการแข่งขัน FEI Nations Cup™ Jumping Final (สนามที่ 8) รวมอยู่ด้วย โดยการแข่งขันมีขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้ (17 สค.) และในการแข่งขันครั้งนี้ Nick Skelton นักกีฬาขี่ม้ารุ่นเก๋าชาวอังกฤษที่มีดีกรีเหรียญทองโอลิมปิคประเภททีม ซึ่งพลาดท่าในการแข่งขันประเภทบุคคล ก็ได้มาขอประลองฝีมือกันอีกครั้ง กับ Steve Guerdat ชาวสวิส เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิคประเภทบุคคล กับ Cian O’Connor ชาวไอร์แลนด์ที่มาพร้อมเหรียญทองแดงโอลิมปิคบุคคล  

จบการแข่งขันทั้งสองรอบ ไอร์แลนด์กลับนำโด่งเป็นผู้ชนะของรายการ และหลังจากรวมคะแนนทั้ง 8 สนามแล้ว ทีมเยอรมันมีคะแนนนำเป็นที่หนึ่งและได้แชมป์ของ FEI Nations Cup™ Jumping League 2011/2012 ไป ส่วนอันดับที่ 2 เป็นทีมจากฝรั่งเศส และอันดับที่ 3 ทีมไอร์แลนด์  สำหรับทีมอังกฤษ แชมป์โอลิมปิคจบที่ลำดับที่ 4


Chef d'équipe Robert Splaine (centre) with the Aga Khan trophy and riders (from left) Darragh Kerins, Richie Moloney, Cian O'Connor and Clem McMahon. Photo via Team Ireland Equestrian's Facebook.


แต่การแข่งขัน Jumping ที่ Dublin ยังไม่จบแค่นี้นะครับ! รายการสนุกๆอย่าง Land Rover Puissance จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 18 สค.นี้ และรายการใหญ่ Longines International Grand Prix of Ireland จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้  

WATCH LIVE!
Dublin Horse Show - Competition Schedule & Rules
Dublin Horse Show - Event Programme
RESULTS: FEI Nations Cup™ Jumping - Dublin (Round 8 of 8)


FEI Nations Cup™ 2012 – Final Standings after Round 8
1.    Germany              -    48
2.    France                 -    44
3.    Ireland                  -    39
4.    Great Britain        -    38
5.    Switzerland         -    35
6.    Netherlands          -   34.5
7    Sweden                -   33.5
8.    Belgium                -   32




สำหรับแฟนๆกีฬาอีเวนท์ติ้ง อีกรายการที่ควรติดตาม คือ Land Rover Burghley Horse Trials  ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 30 สค.-2 กย.  การแข่งขันนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของรายการ HSBC FEI Classics™ 2011/2012 Series โดยสนาม Burghley ที่อังกฤษ นั้นเป็น 1 ใน 6 สนามแกรนด์สแลมของโลกและรอบนี้จะเป็นรอบ Final ของซีซั่น 2011/2012 นอกจากนี้ คะแนนในรอบนี้ก็จะถูกนำมานับเป็นคะแนนเริ่มต้นของซีซั่น 2012/2013 เพราะถือว่าสนามนี้เป็นสนามแรกของซีซั่นหน้า โดยการแข่งขันครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นที่เมือง Pau ประเทศฝรั่งเศส 

BURGHLEY HORSE TRIALS - TIMETABLE



นอกจากความพิเศษของรายการแข่งขันนี้แล้ว รอบนี้ คนที่ได้ดูการแข่งขันEventing โอลิมปิคที่ผ่านมา จะได้เห็น Fence ที่ยกมาจาก Greenwich ถึง 3 แบบด้วยกัน คือ 1. The Planet 2. The Sundials และ 3. The Olympic Games Horses. เห็นอย่างนี้แล้ว การแข่งขันนี้ต้องสนุกแน่ๆครับ!!! 



XC Course Preview by Captain Mark Phillips (โค้ชทีมชาติอเมริกัน) :