(Via Horsemove Thailand Facebook Page)
THAI POLO CSI 1*- W World Cup SEA League
ในปีนี้ FEI World Cup SEA League เกิดขึ้นรวม 3 สนามด้วยกัน โดยสนามที่ 1 และสนามที่ 3 แข่งขันที่ประเทศอินโดนีเซีย ส่วนสนามที่ 2 อยู่ที่พัทยา ซึ่งนักกีฬาไทยมีอยู่สามคนด้วยกัน คือ น้องฝ้าย มัณศิกา ปิยวิทยาการ, ครูภาพ ร้อยตรีสุภาพ ขาวงาม และ น้องปราย ณฐพร ตรีรัตนชาติ
ด้วยความสูงถึง 140 ซม.เต็ม บวกกับการออกแบบเครื่องกระโดด โดยมิสเตอร์รามิน (Ramin Shafiee) จากอิหร่าน (คนเดียวที่ออกแบบสนามรายการ FEI World Challenge มาตลอดระยะเวลาหลายปี) ทำให้สนามกระโดดที่ไทยโปโลครั้งนี้ท้าทายความสามารถยิ่งนัก เพราะดูแล้วไม่ง่ายเลยและ ต้องใช้ความสามารถทั้งคนและม้าอย่างสูงจริงๆ
สำหรับน้องปรายเข้าแข่งขันเป็นคนแรก กระโดดได้ดีจนถึงเครื่อง 5-6 ม้าเสียบาลานซ์ และกะระยะพลาดทำให้ม้าปฏิเสธเครื่องและน้องปรายตกจากหลังม้า แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
ครูภาพกับ Ardbohill Lad เป็นคู่ถัดมา ปกติคู่นี้เป็นมือวางอันดับต้นๆในประเภทอีเวนท์ติ้ง มาคราวนี้ได้ลองกระโดดที่ความสูง 140 ซม. เป็นครั้งแรก ครูภาพกับเจ้า Ard ยังคงไม่ชินกับความสูงระดับนี้ แต่ได้รับเสียงเชียร์รอบสนามดังลั่น ต้องยอมรับใจของม้าตัวนี้จริงๆ รวมทั้งคนขี่ที่สามารถพากันไปจนจบได้ ถึงแม้จะเตะเครื่องกระโดดไปถึง 10 เครื่องก็ตาม แต่ทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่าเจ้า Ard กระโดดทุกอย่างโดยไม่มียึกยักเลย
คนสุดท้ายคือแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว น้องฝ้ายกับซารากัสซ่า ที่ดูสุขุมและปราณีตในการกระโดดมาก ถึงแม้จะมีพลาดบ้างในบางเครื่อง แต่ก็ขี่จบไปอย่างสวยงามด้วยคะแนนเสีย 12 คะแนน คว้าแชมป์ World Cup SEA League สนามที่สองไปครองพร้อมกับเงินรางวัลกว่า 50,000 บาท
Thailand Jumping Championships, the 3rd Qualifier
สำหรับไฮไลท์อยู่ที่รุ่น Senior ที่กระโดดที่ความสูง 140 ซม. โดยแข่งร่วมกับการแข่งขัน World Cup เรียกได้ว่า สนามนี้ความยากเทียบเท่ากับการแข่งWorld Cup ทุกประการ งานนี้น้องมังกี้ วรัญภรณ์ การุณยธัช กับม้า Ciaco Hit สามารถทำ Clear round ได้เพียงคนเดียวของการแข่งขันนี้ ทำให้ได้แชมป์สนาม Thailand Q3 ไปครอง ส่วนอันดับที่สองได้แก่ เสียงซอ เลิศรัตนชัย ที่มีคะแนนเสีย 8 คะแนน และน้องฝ้าย มัณศิกา ปิยะวิทยาการ ในลำดับที่ 3 คะแนนเสีย 12 คะแนน ส่วนนักกีฬาคนอื่นๆไม่สามารถกระโดดจนจบได้ ส่วนใหญ่ปฏิเสธที่เครื่อง 7 (Liverpool)
B.GRIMM Derby Show Jumping
สนามไทยโปโลเป็นสนามแห่งแรกในประเทศไทยที่จัดการแข่งขัน Derby ขึ้น โดยมีการจัดการแข่งขันเป็นประจำทุกปี สำหรับปีนี้เป็นคราวของ มิสเตอร์รามิน Course Designer ระดับโลกชาวอิหร่านมาช่วยออกแบบให้ ถ้าใครไม่ได้ดูคงต้องเสียดาย เพราะความตื่นเต้นเริ่มกันตั้งแต่รุ่นความสูง 50, 70,110 ไปจนถึงความสูง 120 ซม. จำนวน 4 ระดับความสูง โดยมีนักกีฬากว่า 40 คู่ร่วมแข่งขันท้าทายความสามารถและเงินรางวัลสูงสุดในทุกระดับความสูง
สนาม Derby โดยมิสเตอร์รามิน มีระยะทางยาวกว่า 1 กม.และมีเครื่องกระโดดกว่า 16 เครื่องด้วยกัน เพราะฉะนั้นม้าที่เข้าแข่งต้องฟิตพอสมควรเลยทีเดียว ไฮไลท์ของงาน อยู่ที่รุ่น 70 ซม ที่มีนักกีฬาระดับเยาวชนเข้าร่วมอย่างคับคั่ง รวมถึงนายกสมาคมขี่ม้าฯ นายฮาราลด์ ลิงค์ด้วย สำหรับรุ่นนี้ ผลปรากฏว่าน้องกั๊ม ศุภณัฐ วรรณกุล ใช้ฝีมือในการแข่ง Eventing มาช่วย ทำให้ได้เปรียบในการกระโดด คว้าแชมป์ไปครอง จากการ Clear round กับม้าวิทวัส จากม.พัน 29 และใช้เวลาไปเพียง 77.76 วินาที
รุ่นต่อมาคือระดับความสูง 100-105 ซม. ซึ่งเป็นรุ่นที่ขับเคี่ยวกันมันส์ที่สุดของการแข่งขันเลยทีเดียว เพราะรวมเอานักกีฬาระดับหัวแถวมามากมาย โดยน้องนัท กรธวัช สำราญ กับม้า Achilles ทำคะแนนเสียไป 4 คะแนนและนำมาตลอดการแข่งขัน จนคนสุดท้าย ครูใจ จ่าสิบเอก สมใจ แสนหอม ขี่ม้าคู่ใจพนมเทียน ได้อย่างปราณีตและไม่เร่ง เพื่อเอา Clear round แต่พลาดท่า เตะเครื่องกระโดดก่อนสุดท้ายบนเนินเขา ทำให้แพ้เวลาไป ได้ลำดับที่ 2 แทน
สำหรับรุ่นสุดท้าย 120 ซม. สามทหารเสือรุ่นเก๋าอย่าง ครูปุ้ย พันตรีเกียรติณรงค์ คล่องการ, ครูภาพ ร้อยตรีสุภาพ ขาวงาม และครูใจ จ่าสิบเอกสมใจ แสนหอม ต้องมาดวลกันตัวต่อตัว สุดท้ายครูภาพกับ Ardbohill Lad ยังทำผลงานได้ดีที่สุด ด้วยคะแนนเสีย 16 คะแนน คว้าแชมป์ไปครองอีกรายการ ทำให้หลังจบรายการนี้ ครูภาพกวาดรางวัลไปเพียบกว่าครึ่งแสน!
งานนี้ คงต้องขอแสดงความยินดีกับครูภาพดังๆ รวมถึงนักกีฬาทุกคนที่ได้รับรางวัล และประสบการณ์ใหม่ๆอันสนุกสนานตื่นเต้นในครั้งนี้ครับ :)