Friday, May 17, 2013

Final Highlight & Results: "King's Cup" Thailand Equestrian Championships 2013 & Thailand Open

คลับเฮ้าส์ใหม่สำหรับชาว Equestrian

ชาวขี่ม้ากลับมาไทยโปโลปีนี้ คงได้ชื่นชมและอาศัยพักพิงคลับเฮาส์หลังใหม่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางสามแยกเสาธงเก่า  สำหรับคลับเฮ้าส์ใหม่นี้จัดเต็มให้ชาวขี่ม้าได้ชมการแข่งขันอย่างจุใจรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นสนามหญ้าหน้าคลับเฮาส์สำหรับเดรสซาจ สนามทรายด้านหลังสำหรับกระโดด และสนามครอสคันทรี่ในเขาที่มองเห็นได้ไกลลิบจากชั้นสอง  นอกจากใช้ชมการแข่งขันแล้ว คลับเฮ้าส์ด้านบนยังที่กว้างโอ่โถงเพื่อใช้ในการจัดเลี้ยง รวมถึงบาร์เครื่องดื่มที่เปิดบริการตลอดวันด้วย

นอกจากคลับเฮ้าส์แล้ว ทางไทยโปโลยังได้ทำการปรับปรุง judge box ที่สนามทรายใหม่ด้วยการเปลี่ยนหลังคามุงจากเป็นหลังคาทรงไทย รวมถึงการสร้างโรงเก็บเครื่องกระโดด และปรับปรุงทัศนียภาพรอบๆ ใครยังไม่ได้เห็นด้วยตา ต้องไปชมกันครับว่าจะตระการตาแค่ไหน

Club House #3

New Polo Field


Dressage Arena on the Polo field


Thai Polo's major sponsor BMW

Jumping arena and the renovated Judge Box

การกลับมาของ เสธ.แซม “The Old Man Never Dies”


Col. Fuangvich Aniruth-Deva on Maximus

ไม่ได้เห็นบนหลังม้ามาหลายปี  แต่ปี 56 นี้ เสธ.แซม หรือ พันเอกเฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา เลขาธิการสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย ร่างกายฟิตเป็นพิเศษ เลยได้ฤกษ์ลงแข่งขันขี่ม้าทั้งอีเวนท์ติ้ง และกระโดดกับม้าเด็กอีก รวมสามตัว โดยในประเภทอีเวนท์ติ้ง เสธ.แซมลงแข่งกับม้าคู่ใจ Maximus  มีคะแนนนำติดท็อปทรีไปในวันแรกจากการแข่งขันเดรสซาจและกระโดด  ทำให้หลายคนต่างให้ความเห็นกันว่าเสธ.แซมเป็นตัวเก็งคว้าถ้วยคิงส์คัพครั้งนี้แน่นอน แต่เอาเข้าจริงวันที่ลงแข่งครอสคันทรี่ เสธ.แซมกลับมีคะแนนเสียจากเวลาเกินมากกว่าที่คาดไว้ ทั้งๆที่ทุกคนก็ต่างรู้ฝีไม้ลายมือของทั้งเสธ.และ Maximusเอง ว่าไม่เคยทำเวลาเกินในสนามครอสคันทรี่เลย เรื่องนี้ ทีมงานHorseMove ได้ไปสัมภาษณ์ความรู้สึกหลังการแข่งขัน และก็ถึงบางอ้อว่า รายการที่แข่งอยู่นี้เป็นการแข่งขันรอบแรกเพื่อ Qualify รายการ Asian Eventing Championships และยังต้องมีการแข่งอีกสองครั้ง หากม้า “แตก” อาจส่งผลถึงอนาคตได้  ตามแผนที่วางไว้คือต้องทำการเซฟม้าไว้ก่อนเพื่อให้ฟื้นตัวได้เร็วและพร้อมแข่งในรอบต่อไปใน MaxWin CIC 1* วันที่ 24-26 พค.นี้ 

Asian Eventing Championships งานใหญ่ที่กำลังจะมาถึง

Officials and the Eventing Teams from Japan, Indonesia, India and Thailand

FEI Asian Eventing Championships เป็นรายการแข่งขันอีเวนท์ติ้งรายการแรกที่ FEI ทำการบรรจุให้เป็นรายการแชมเปี้ยนชิพระดับภูมิภาคเอเชีย โดยทาง FEI ได้กำหนดให้เป็นการแข่งขันในระดับ CIC 1* โดยมีเกณฑ์การเข้าแข่งขันขั้นต่ำ (MER หรือ Minimum Eligibility Requirement) จากการแข่งขัน CNC 1star 1 ครั้งและ CIC 1* อีก1 ครั้ง  โดยทางสมาคมขี่ม้าฯ ได้จัดให้มีการแข่งขันขึ้นในสองสนามคือที่งาน Thailand Championship และ MaxWin CIC 1* ที่สโมสรไทยโปโลแอนด์อีเควสเทรี่ยนคลับ พัทยา 

สำหรับรอบแรก ประเทศไทยได้ทำการต้อนรับนักกีฬาและทีมงานที่มาร่วมลงแข่งจากอีก 3 ประเทศจำนวนเกือบ 20 คน ทั้งจากประเทศญี่ปุ่น อินเดีย และอินโดนีเซีย โดยผลการแข่งขันเป็นไปด้วยดี แต่ที่เก๋าสุดเห็นจะเป็นทีมญี่ปุ่นที่ทำการเตรียมม้าและแข่งขันตามเป้าได้ชัดเจนที่สุด 

ทางทีมงานได้ข่าวมาคร่าวๆว่า ในการแข่งขัน FEI Asian Eventing Championships ระหว่างวันที่ 25-28 กค.นี้  นอกจาก ญี่ปุ่น อินเดีย อินโดนีเซีย แล้วอาจจะมีทีมจากประเทศฮ่องกงและเกาหลีเข้าร่วมแข่งขันด้วย โดยจะทำการขนม้าเข้ามาแข่งขันเอง นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันรายการ FEI World Jumping Challenge ประเภทกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง เพื่อเก็บคะแนนรายการ Nanjing Youth Olympic 2014 ด้วย  สำหรับข่าวอัพเดท ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ

วีรภัฎ กับการครองถ้วยแชมป์ประเทศไทยเป็นครั้งที่ 4 

Weerapat Pitakanonda on Monarch Royal Touch

นักกีฬาจากหัวเมืองเชียงใหม่ บอมบ์ วีรภัฎ ปิฏกานนท์ นักกีฬาทีมชาติไทยหลายสมัย กลับมาอีกครั้งที่ไทยโปโล พร้อมกับคู่หู Monarch Royal Touch เพื่อลงแข่งขันอีเวนท์ติ้ง ระดับ CNC 1* อันเป็นรายการชิงแชมป์ประเทศไทย ถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ โดยบอมบ์กับ Monarchทำคะแนนอยู่ในลำดับต้นๆมาตั้งแต่วันแรก และก็ยังสามารถรักษาฟอร์มการขี่ในครอสคันทรี่ได้ดีเยี่ยม จึงทำให้บอมบ์จบที่คะแนนเสีย 58 คะแนน (58+0+0) และครองแชมป์ประเทศไทยครั้งที่ 4 ไปได้ หลังจากครองถ้วยแชมป์ประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 1999 และอีกสองครั้งต่อมาในปี 2006 และ 2007

บุกเดี่ยว นำโด่ง ภคินี กับแชมป์เดรสซาจประเทศไทย

Pakinee Pantapa and Tayutin

ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า นับวันวงการเดรสซาจไทยจะมีคนเล่นน้อยลงทุกวัน โดยเฉพาะในระดับPrix St-Georges ที่ถือเป็นก้าวแรกของการแข่งขันเดรสซาจระดับอินเตอร์ อย่างไรก็ดี ภคินี พันธาภา หนึ่งในนักกีฬาแถวหน้าของวงการเดรสซาจไทย ก็ยังเดินหน้าพัฒนาฝีมือต่อไปและปีนี้ก็คว้าถ้วยพระราชทานคิงส์คัพมาครองได้อีกครั้งหลังจากได้แชมป์เมื่อสองปีก่อน  สำหรับคะแนนรวมสะสมของถ้วยคิงส์คัพนี้ นับจากที่นักกีฬาทำการเก็บคะแนนมาทั้งหมด 5 สนาม โดยภัคทำคะแนนนำโด่งอย่างไร้คู่แข่ง ทั้งอดีตทีมชาติ ครูหมุน นิธิภัทร เหง้าโอสา  ครูสุวัจน์ บุญลือ และ ประดิษฐา ฐิตะฐาน   ส่วนในรอบfinal ที่สนามไทยโปโล มีการแข่งขันสองรอบ รอบแรกระดับ Prix St-Georges ทำคะแนนได้ 56.51% ส่วนรอบที่ 2 ระดับ Prix St-Georges Freestyle to Music ทำคะแนนได้ 67.25% สรุปในรอบ Final มีคะแนนเฉลี่ยที่ 61.88% 

นักกีฬาเยาวชน เสียงซอ คว้าแชมป์ประเทศไทยหลังกระโดด 140 ซม

Siengsaw Lertratanachai and Victory B

สามปีที่ผ่านมา ไม่มีใครมาแรงเท่าเสียงซอ เลิศรัตนชัย ที่สามารถ แสดงผลงาน ได้โดดเด่นที่สุดในสนามกระโดด และทำการขับเขี้ยวกับนักกีฬารุ่นพี่ได้อย่างไม่ย่อท้อ ไล่มาตั้งแต่เริ่มแข่งในรุ่น junior จนเข้ามาติดอันดับท็อปในรุ่น Senior เคียงคู่ไปกับนักกีฬาทีมชาติหลายคน เธอบอกว่า สามปีที่ผ่านมา ได้ทุ่มเทเวลาให้กับการฝึกซ้อมขี่ม้าอย่างจริงจังและใช้เวลาเกือบสามปีในการไต่ระดับจากที่เคยกระโดดในระดับความสูง 80 ซม มาเป็น 140 ซมในปัจจุบัน

ในปี 2555-2556 นี้ เสียงซอ ได้ทำการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยถึงสองรุ่นคือรุ่น Senior และ Young Rider โดยเก็บคะแนนมาแล้ว 7 สนาม และมีคะแนนนำอยู่ในทั้งสองรุ่นเช่นกัน สำหรับสนามFinal ที่ไทยโปโล ในรุ่น Senior ที่เป็นรุ่นคิงส์คัพ มีการแข่งขันสองรอบ รอบแรกคือ การกระโดดที่ความสูง 130-140 ซม ส่วนรอบสองซึ่งเป็นรอบไฮไลท์ อยู่ที่ความสูง 140 ซม แบบ full course ซึ่งผลปรากฎว่าในรอบแรกเสียงซอทำคะแนนได้ไม่ดีนัก โดยเตะเครื่องตกไป 2 เคร่ือง และใช้เวลาเกินอีก ทำให้มีคะแนนเสียทั้งสิ้น 9 คะแนน ส่วนรอบสองเสียงซอระวังมากขึ้น มีคะแนนเสียไป 8 คะแนน รวมสองรอบ มีคะแนนเสีย 17 คะแนน ในขณะที่ ฝ้าย มัณศิกา นักกีฬาชุดทีมชาติซีเกมส์ปี2010 ซึ่งทำคะแนนรวมสองรอบได้ดีกว่าเสียงซอ คือมีคะแนนรวมสองรอบที่ 16 คะแนน จากการเสีย 4 คะแนนในรอบแรกและเสียอีก 12 คะแนนในรอบ 2 จึงเอาชนะในสนาม final ไปได้อย่างเฉียวฉิว ที่ 16 ต่อ 17 คะแนน อย่างไรก็ดี เมื่อรวมคะแนนทั้ง 8 สนามแล้ว เสียงซอซึ่งมีคะแนนนำโด่งมาตั้งแต่ต้น ก็คว้าถ้วยพระราชทานคิงส์คัพปีนี้ไปได้สำเร็จ 


ต้น เจตกรณ์ หนุ่มไฟแรงแห่งวงการเอ็นดูแรนซ์ คว้าแชมป์ปีนี้

Jettakorn Meechokchai and Aragon

คงจะมีคนสงสัย ว่าหนุ่มน้อย ตัวสูงชะลูด หน้าตาเหมือนเสก โลโซ ที่ขี่ม้าArabianสีเทา คนนี้เป็นใคร ถ้าได้ติดตามกันเมื่อเดือนก่อนที่ประเทศไทยส่งนักกีฬาเข้าไปแข่งขัน Pre SEA Games ที่ประเทศพม่าก็จะได้รู้ว่า น้องคนนี้เป็นตัวแทนทีมชาติไทยประเภทเอ็นดูแรนซ์ มีนามว่า ต้น เจตกรณ์ มีโชคชัย วัย 20 ปี ที่เพิ่งคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันPre-SEA Gamesที่พม่ามาหมาดๆ  ต้นเล่าว่า ตนขี่ม้ามาได้ 9 ปีแล้วโดยเริ่มจากการขี่ม้าแบบคาวบอยมา 7 ปี และมาเริ่มแข่งเอ็นดูแรนซ์ได้สองปี​โดยมีโค้ช คือนายยอดชัย มีโชคชัย ซึ่งเป็นคุณพ่อของต้นนั่นเอง  สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ที่สโมสรไทยโปโล เป็นการแข่งขันเก็บคะแนนเพื่อqualify ซีเกมส์ที่พม่าเป็นครั้งแรก โดยใช้ระยะทางทั้งสิ้น 40 กม. และมีนักกีฬาเข้าร่วมกว่า 50 คน ผลปรากฎว่า ต้น กับม้า Aragon ทำเวลาได้ดีที่สุด ที่ 2 ชม 32 นาที ในขณะที่ยังสามารถประคองม้าให้เข้าเส้นชัยได้ในสภาพสมบูรณ์ที่สุดด้วย (หลังผ่านการตรวจจากสัตวแพทย์แล้ว) จึงคว้าชัยในรอบนี้รวมถึงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพไปครองได้สำเร็จ


จับตาดูนักกีฬาขี่ม้าเยาวชน สายเลือดใหม่ของทีมไทย


Dressage:


นาทีนี้ถ้าไม่นับรวมรุ่นใหญ่  สองนักกีฬาที่น่าจับตามองก็คงหนีไม่พ้น น้องเอ่ย ภัคจิรา ธงภักดิ์ และน้องวิน ศุพสิน คงพันธุ์ ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมาทั้งสองคนทำผลงานได้ยอดเยี่ยมและรักษาฟอร์มไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ โดยน้องเอ่ย สามารถคว้าแชมป์ประเทศไทยในรุ่น Young Rider ไปครองได้เป็นปีที่สองติดต่อกัน รวมถึงแชมป์กีฬามหาวิทยาลัย ส่วนในระดับนานาชาติ น้องเอ่ยได้เป็นตัวแทนทีมไทยไปแข่ง Pre-SEA Games ที่ประเทศพม่าและคว้าเหรียญเงินทั้งประเภทบุคคลและทีม ล่าสุดได้ไปแข่งขันที่มาเลเซียและชนะเลิศรายการ CDIY Borrow Horseด้วย


Pakjira Thongpakdi on Filou

Supasin Kongpun with Roma Vera

ส่วนน้องวิน เด็กน้อยวัยเพียง 12 ปี ที่ควบตำแหน่งแชมป์ประเทศไทยรุ่น Sub Junior กับ Junior และเป็นรองแชมป์ในรุ่น Young Rider ยังเคยผ่านการแข่งขันกีฬาแห่งชาติที่เชียงใหม่เมื่อปลายปีที่ผ่านมาและได้รางวัลชนะเลิศมาด้วย 

นักกีฬาทั้งสอง ต่างเอาจริงเอาจังกับการขี่ม้าเดรสซาจมาก และได้มีโอกาสไปฝึกที่ประเทศเยอรมันเพื่อพัฒนาตัวเองตลอดมา  ในอนาคตไม่ไกลคงได้เห็นทั้งสองคนนี้แข่งในนามทีมชาติแน่นอน ฟันธง!!!

Jumping:

กีฬาขี่ม้าประเภทกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางจัดเป็นกีฬายอดนิยม จึงมีน้องๆรุ่นใหม่ก้าวขึ้นมาอย่างสมำ่เสมอ ส่วนนักกีฬาที่ทำผลงานได้โดดเด่นจนน่าจับตามองก็คือน้องปลาย ณัฐพร ตรีรัตนชาติ และน้องจูเลีย  มาซอคกี้ ที่สามารถสร้างผลงานได้อย่างสม่ำเสมอ 

 Nattaporn Triratanachat with Kalindra 

Giulia Mazzocchi riding Waikiki

น้องปราย สามารถก้าวขึ้นมาแข่งขันกับรุ่นพี่ๆได้อย่างสูสี และมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนน้องจูเลียก็สามารถคว้าแชมป์ในรุ่น Junior ทั้งของรายการชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยและรุ่น Open
ต้องขอชื่นชมค่าย Horse Lover ที่สร้างนักกีฬากระโดดรุ่นใหม่มาประดับวงการได้อย่างต่อเนื่องจริงๆ

Eventing:

ถ้าจะไม่พูดถึง หนุ่มน้อยจากเชียงใหม่ทั้งสองคนนี้คงไม่ได้ เพราะเป็นดาวรุ่งพุ่งขึ้นมาต่อกรกับรุ่นใหญ่ได้อย่างสูสี ถึงแม้จะยังอ่อนในเรื่องของประสบการณ์แต่พัฒนาการการขี่และใจไม่เป็นรองใครแน่นอน สองคนที่ว่านี้ก็คือ น้องกั๊ม ศุภณัฐ วรรณกุล และน้องนัท กรธวัช สำราญ

ในปีที่ผ่านมาน้องกั๊มสร้างผลงานไว้มากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องกระโดดหรือ Eventing ไล่มาตั้งแต่เป็นแชมป์กีฬาแห่งชาติที่เชียงใหม่ ทีมชนะเลิศ CSIY-B Bangkok เมื่อต้นปีที่ผ่านมา รวมถึงชนะเลิศการแข่ง Derbyที่สนามเป้า นับเป็นนักกีฬา Eventingที่น่าจับตามอง

Supanut Wannakool and Hancock in Thailand Championships CNC 1*

Korntawat Samran at Yamanishi Eventing 2012 in Japan

สำหรับน้องนัท เด็กหนุ่มวัย 15 ที่ปีที่แล้วเริ่มลงแข่งขัน Eventing อย่างจริงจัง สามารถคว้าแชมป์ทั้งระดับ Pre-Novice และ CIC* มาได้เมื่อปีที่แล้ว และได้เป็นตัวแทนทีมไทยไปแข่งที่ญี่ปุ่น จนสามารถคว้ารองแชมป์ All Nippon ในรุ่น Junior มาครองได้  ได้ข่าวมาว่าช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา น้องนัทได้เดินทางไปฝึกซ้อมที่นิวซีแลนด์ ประเทศที่สร้างยอดนักกีฬาขี่ม้า Eventing ระดับโลกมามากมาย ถึงแม้จะพลาดการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยในรอบนี้ เราคงได้เห็นฝีไม้ลายมือของเค้าในอีกเร็วๆนี้

ต้องมาคอยดูผลงานของทั้งสองคนนี้ในรายการ MaxWin CIC* ในปลายเดือนนี้กันครับ ไม่แน่ว่าปีหน้าเราอาจจะได้เห็นชื่อสองคนนี้เป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปแข่งเอเชี่ยนเกมส์ที่เกาหลีก็ได้


สรุปผลการแข่งขันขี่ม้าชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 21 ประจำปี 2556:

  1. ประเภทศิลปการบังคับม้า ได้แก่ ภคินี พันธาภา ขี่ม้า Tayutin  
  2. ประเภทขี่ม้าอีเวนท์ติ้ง ได้แก่ วีรภัฎ ปิฏกานนท์ ขี่ม้า Monarch Royal Touch 
  3. ประเภทขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ได้แก่ เสียงซอ เลิศรัตนชัย ขี่ม้า Victory B 
  4. ประเภทขี่ม้ามาราธอน ได้แก่ เจตกรณ์ มีโชคชัย ขี่ม้า Aragon 

Thailand Equestrian Championships "King's Cup" 2013 Winners: (left to right) Jettakorn Meechokchai/Endurance, Weerapat Pitakanonda/Eventing, Siengsaw Lertratanachai/Show Jumping, Pakinee Pantapa/Dressage

********




(all photo via facebook.com/horsemoveth)


********







No comments:

Post a Comment