ผมมีโอกาสได้เดินทางไปเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีกครั้ง หลังจากไม่ได้กลับไปเลยเป็นเวลา 5 ปี
เมื่อตอนสมัยยังเด็ก ผมได้มาฝึกขี่ม้ากับ Hans Staub นักกีฬาขี่ม้าโอลิมปิคของที่นี่อยู่บ่อยครั้ง โดยคอกของเค้าตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆชื่อว่า Bäretswil (เมืองหมี) ใกล้ๆกับเมืองซูริค และหากจะถามถึงประสบการณ์ของผมแล้ว นอกจากจะได้ฝึกขี่ม้ากับโค้ชสายเลือดทหารม้าเก่าแก่และสุดเฮี๊ยบอย่าง Hans Staub แล้ว สิ่งหนึ่งที่ผมยังประทับใจไม่รู้ลืม คือ มิตรภาพและความจริงใจ
Hans's Stable in Bäretswil. More Photo. Photo Courtesy of Hans Staub.
กลับมาคราวนี้ ผมนัดเจอ Hans และเพื่อนเก่าสมัยที่ฝึกขี่ม้าอยู่ด้วยกันหลายคน แต่หลักๆแล้วคงหนีไม่พ้นการมา ‘เยี่ยม’ โค้ช ซึ่งถือว่าเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผมที่นี่ก็ว่าได้ และการมาพบปะกับ ‘ม้า’ ตัวล่าสุดของเรา HMT HELLSINGH (ซึ่งย่อมาจาก HorseMove Thailand HELLSINGH)
Three long time friends. Photo courtesy of HorseMove Thailand.
วันที่ 9 กย. Hans มารับผมที่คอกม้าของเพื่อนอีกคนหนึ่ง สิ่งแรกที่ Hans ทำคือบอก itinerary ประจำวันให้ผมฟัง โดยเราเริ่มจากการไปลองม้าในตอนเช้า จากนั้นก็แวะเยี่ยมบ้านใหม่ของ Hans แวะชมเทือกเขาแอลป์ แวะทานข้าวเที่ยงริมแม่น้ำ ไปดู Clinic ของ Hans ร้านเครื่องม้า และดินเนอร์อาหารอิตาเลี่ยนตบท้าย
มาถึงที่คอกในตอนเช้า Hans พาผมไปที่คอกม้าเพื่อเจอกับ HMT HELLSINGH ทันที ครั้งแรกที่เจอผมก็รู้สึกถูกชะตากับมันอย่างบอกไม่ถูก Hans พาเจ้าม้าออกมาเดินโชว์หนึ่งรอบก่อนจะเริ่มติด tack และขึ้นขี่
Hans ตะโกนบอกผมหลังจากขึ้นม้าทันทีว่า “I will walk him through the forest, he likes it.” เค้าพูดพลางส่งยิ้มและขยิบตาให้
HorseMove Thailand Hellsingh aka HMT Hellsingh. Photo courtesy of HorseMove Thailand.
HMT HELLSINGH ม้า Stallion พันธุ์ Hanoverian สี Dark Brown วัย 5 ขวบ (2006)
Sire: HOHENSTEIN
Dam: SANDRO HIT
Owner: HORSEMOVE THAILAND & HANS STAUB
HMT Hellsingh was pampered by Hans. Photo courtesy of HorseMove Thailand.
ผ่านไปพักใหญ่ ทั้งวอร์มม้าและลองม้า เราทั้งคู่ก็มานั่งดูรูปกับวีดีโอที่ถ่ายไว้ ซึ่งเราก็พอใจกับคุณภาพของม้าที่เราได้ร่วมกันเลือกไว้อย่างมาก และหวังไว้อีกว่าม้าตัวนี้จะไปได้ถึงระดับGrand Prix ภายใต้การฝึกสอนของ Hans Staub
หลังจากดูแลม้าเสร็จ เราก็ออกจากคอกม้าและตรงรี่ไปยังบ้านของ Hans ซึ่งอยู่ห่างจากคอกไปไม่ถึง 10 นาที
*****
On the way to our chief's house. Photo courtesy of HorseMove Thailand.
ระหว่างขับรถไปที่บ้าน Hans บอกกับผมว่า เค้าเลือกที่จะอยู่แถวนี้เพราะที่นี่เป็นที่ที่เค้าเกิด
“I chose this house because it’s where I was born...near here.”
“Our neighbor does vegetable farming, they sent fresh vegetables to Migros (supermarket) every morning, and so we have fresh vegetable to eat everyday!”
จริงอย่างที่เค้าว่าครับ ทั้งหน้าบ้าน ข้างบ้าน และหลังบ้าน อยู่ติดกับแปลงปลูกผักขนาดใหญ่ รวมถึงโกดังเก็บผลผลิตการเกษตรรายรอบ
Vegetable farm right next to the House. Photo courtesy of HorseMove Thailand.
Hans เชิญผมเข้าไปในบ้าน... ช่างเป็นบรรยากาศที่คุ้นเคยจริงๆ เพราะเค้านำของจากบ้านเก่ามาเกือบทั้งหมด Hans เป็นคนที่มีอารมณ์สุนทรีย์และชอบแต่งบ้านมากครับ เค้ามักจะหาซื้อของชิ้นเล็กๆที่ดูมีความหมายมาไว้แต่งบ้านเสมอ รวมถึงรูปภาพวาดม้าที่สเก็ตช์ด้วยมืออีกหลายรูป
“This is from my family...” Hans ชี้ไปที่กระจกสีชากรอบทองบานหนึ่งที่แขวนอยู่บนฝาผนัง เค้ากวักมือเรียกและพาผมมาอีกด้านนึงของบ้าน เพื่อชมรูปถ่ายครอบครัว และรูปถ่ายเค้ากับม้าที่ประสบความสำเร็จมาด้วยกันนับสิบตัว แล้วพาผมออกไปที่สวนหน้าบ้าน เพื่อชมวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์หน้าบ้าน พร้อมกับจัดโต๊ะเก้าอี้ริมสวนสำหรับอาหารเช้า และกาแฟ
Bits of pieces of what Hans loves the most 'The Horses.' Photo courtesy of HorseMove Thailand.
ผมกล่าวชื่นชมในการใช้ชีวิตของ Hans ที่นี่และนึกอิจฉาเค้าเหมือนกัน เพราะสุดท้ายแล้วคนเราไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าชีวิตที่สุขสงบ และได้อยู่ใกล้ๆกับสิ่งที่เรารัก
“Life is shorttt...do whatever makes you and your family happy.” Hans กล่าว ก่อนจะเริ่มยกกาแฟและ croissant สดใหม่ สุดอร่อย ที่ไปซื้อเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เช้า
ระหว่างอาหารเช้า Hans โชว์สมุดบันทึกเล่มใหญ่ ที่เราจะเรียกว่า ‘คัมภีร์’ ก็คงได้เพราะเค้าจดบันทึกการแข่งขัน ประสบการณ์ ความประทับใจ ความรู้เรื่องม้า ข่าวจากสื่อ รวมถึงกราฟประเมินผลการแข่งขันของเค้ากับม้าในทุกๆแมทช์ ซึ่งละเอียดมากจริงๆครับ และผมก็เห็นด้วยมากๆที่นักกีฬาน่าจะเอาอย่าง เพราะถึงแม้ Hans จะผ่านประสบการณ์การแข่งขันมาถึงระดับนี้แล้ว เค้าก็ยังประเมินและวัดผล performance ของตัวเค้าเองและม้าอยู่เป็นประจำ เพื่อให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น (นักกีฬาโอลิมปิคยังมุ่งมั่นหมั่นพัฒนาฝีมือของตัวเอง เพราะฉะนั้นน้องๆเพื่อนๆนักกีฬาก็อย่าหยุดนิ่งดูดาย และคิดว่าเราเก่งแล้วนะครับ จำไว้อย่างครับว่าการวัดผลแบบสถิติเป็นส่วนประกอบสำคัญในการค้นหาหลักการและเหตุผลของนักกีฬาและม้าแต่ละคู่ และยังช่วยให้เราสามารถปรับปรุงตัวเราเองได้เร็วขึ้นด้วย)
An angle shot from the secret bible by Hans. Photo courtesy of HorseMove Thailand.
The choice of ride by our chief, Audi A8, which was used specifically for pulling horse trailer! Photo courtesy of HorseMove Thailand.
*****
HANS STAUB’S CLINIC IN SWISS
เสร็จจากที่บ้าน Hans พาผมตรงเข้าไปทางอีกฝั่งของบ้านเพื่อชมวิวจากเทือกเขาแอลป์ ที่ทางเดินที่มีต้นแอปเปิ้ลเรียงราย Hans หยิบผลแอปเปิ้ลลูกนึงขึ้นมาเช็ดที่กางเกงยีนส์ และเดินทานแอปเปิ้ลลูกสีเขียวลูกนั้นไปพลางๆ ผมเหลือบไปมองฟาร์มข้างๆ เสียงกระดิ่งจากฝูงวัวที่อยู่ใกล้ๆ เคล้าเสียงลม กลิ่นดินหญ้าและท้องทุ่ง และบรรยากาศวิวด้านล่าง ดูช่างเข้ากันดีนัก
นี่แหละ The Real Switzerland...ผมคิดในใจ
The Real Switzerland...Photo courtesy of HorseMove Thailand.
จากนั้น Hans ก็พาผมตรงไปทานข้าวริมแม่น้ำ ซึ่ง Hans บอกว่าเค้าชอบมานั่งทานข้าวที่ร้านนี้เกือบทุก weekend ทานข้าวเสร็จ Hans ก็พาผมเข้าไปที่สโมสรขี่ม้า โดยHans มีีนัดขี่ม้าเพื่อ Re-school ม้าของนักกีฬาอีกสองตัว
สโมสรขี่ม้าที่ผมไปเป็นสโมสรใหญ่ที่อยู่ใกล้ตัวเมืองซูริค ซึ่งแถวนั้นยังมีสโมสรขี่ม้าติดกันอีก 3 แห่ง
“If you are hungry, there are a supermarket and McDonald’s right next to the stable.” Hans พูดอย่างเป็นห่วงเป็นใยก่อนจะเดินเข้าไปที่สนาม พร้อมโยนกุญแจรถให้ผม
เมื่อตอนผมเป็นเด็ก ผมนั่งดู Hans ขี่ม้ามาตลอด กับม้าทุกรูปแบบ และถ้ามีโอกาสดีหน่อย Hans ก็จะเรียกผมไปวอร์มม้าหรือทำโน่นทำนี่ เพื่อให้เกิดเป็นความรู้จากการได้ลงมือทำจริงและเป็นประโยชน์ต่อการฝึกซ้อม
Hans was re-schooling the horse at the Riding School near Zurich. Photo courtesy of HorseMove Thailand.
Here's the back of the club with jumping and eventing course for training. Photo courtesy of HorseMove Thailand.
กลับมาคราวนี้ได้มานั่งดู Hans ขี่ม้าอีกครั้ง บรรยากาศเก่าๆเริ่มกลับมา ทำให้อยากขี่ม้าขึ้นมาทันที Hans ตั้งหน้าตั้งตาขี่ ทักทายคนรู้จักที่มาขี่ม้าอย่างเป็นกันเอง ผมออกไปสูดอากาศและเดินสำรวจคอกด้านใน และเจอแปลงฝึกซ้อม Jumping/Eventing เล็กๆที่ดูเข้าท่า และหันไปอีกด้าน ที่คอกม้าอีกคอกหนึ่ง ก็เจอนักกีฬาทีมชาติ แชมป์สวิสปีล่าสุด Markus Graf กำลังฝึกม้าแบบ secret training อยู่ (เทคนิคพิเศษในการฝึกซึ่งไม่อาจเปิดเผยได้)
ผ่านไปสองชั่วโมง Hans พาผมขับรถไปที่ร้านเครื่องม้าขนาดใหญ่ที่มีของใช้อยู่เต็มร้าน ผมช้อปปิ้งอยู่พักนึง จากนั้น Hans ก็พาผมไปที่โรงแรมเล็กๆในเมืองเพื่อเช็คอิน และทานดินเนอร์อาหารอิตาเลียนที่อยู่ชั้นล่างของโรงแรม
เราสั่งเบียร์และนั่งรำลึกถึงความหลังครั้งเก่ากัน ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ Hans มาเริ่มเป็นโค้ชที่เมืองไทย และกล่าวเลยไปถึงความตั้งใจจริงของเค้าที่จะช่วยปรับปรุงคุณภาพของนักกีฬาและพัฒนากีฬา Dressage ไทยให้ดียิ่งๆขึ้น
*****
ทริปนี้ที่สวิส ผมต้องขอบอกว่ามัน ‘แสนสุขใจ’ จริงๆครับ เพราะนอกจากจะได้เจอเพื่อนเก่าและบรรยากาศเก่าๆแล้ว อากาศที่นี่ดีมากๆ และตามสองข้างทางที่ผมนั่งรถไปก็เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวสด ภูเขา ท้องทุ่งเกษตรกรรม ทั้งไร่แอปเปิ้ล ไร่ข้าวโพด และพืชผักนานาชนิด ทำให้ร่างกายมันรู้สึกผ่อนคลาย และสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก
....จากนี้ ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งเมื่อไหร่ แต่หวังไว้เล็กๆว่าคงอีกไม่นาน และหวังว่ารอบหน้าจะมีเพื่อนร่วมทางมาด้วยอีกซักโขยง... :)
ใครจะไปยกมือขึ้น!
No comments:
Post a Comment