Thursday, March 1, 2012

Nina's Official Press Conference in Thailand on 1 March 2012

งานแถลงข่าวเปิดตัวนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย สู้ศึกโอลิมปิค 2012
"ณีนา รุจิราภรณ์ ล่ำซำ ลิเกิ้น"

RIDING TOWARDS LONDON 2012  >>> NINA LAMSAM LIGON

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ทางสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทยได้แถลงข่าวเปิดตัว นักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทยในลอนดอนโอลิมปิค "น้องณีนา ล่ำซำ ลิเกิ้น" หลังจากที่เธอได้แข่งขันเก็บคะแนนคัดตัวโอลิมปิคมาตลอด 1 ปีเต็ม มาวันนี้ ด้วยคะแนนสะสมของเธอ ณีนาได้รับสิทธิในการแข่งขันขี่ม้าประเภทอีเวนท์ติ้งในโอลิมปิคอย่างเป็นทางการ 

ณีนายังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การได้ลงแข่งขันในโอลิมปิคนี้เป็นความฝันของณีนาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ส่วนความคาดหวังนั้น ณีนากล่าวว่า ครั้งนี้เป็นโอลิมปิคครั้งแรก ประสบการณ์ของณีนายังน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับนักกีฬาระดับโลกคนอื่นๆที่แข่งขันระดับนี้มาเป็นสิบๆปี แต่ณีนาก็จะทำให้ดีที่สุดและหวังว่าผลของการแข่งขันจะทำให้คนไทยมีความสุขได้...
Official Press Conference for Nina on 1 March 2012 in Thailand.


Nina mentioned about her expectation in London Olympic.

Khun Hom, Nina's childhood groom in Thailand, came to congratulate Nina as a surprise!

Surrounded by Thai press...

 During the interview.

Nina, her family and TEF Secretary General Col. Sam Aniruth-Deva
*****



เรื่องราวฉบับย่อ ของ
ณีนา ล่ำซำ ลิเกิ้น

Nina Lamsam Ligon riding Tipperary Liadhnan

จุดเริ่มต้นของณีนาในวันนี้ เกิดขึ้นมาจากความฝันเล็กๆของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่รักม้าเป็นชีวิตจิตใจและใฝ่ฝันที่จะนำม้าของเธอไปแข่งขันเคียงคู่กันในรายการขี่ม้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งก็คือการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค

เส้นทางที่ช่วยปูทางและสานฝันให้กับณีนาเริ่มต้นขึ้นในปี 2007 เมื่อเธอตัดสินใจลงแข่งขันในนามนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทยในกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 24 ที่จัดขึ้นที่เมืองไทย  ด้วยวัยเพียง16 ปี ณีนาสามารถคว้าสองเหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาขี่ม้าประเภทอีเวนท์ติ้งได้สำเร็จ และครั้งนั้น เธอก็ได้พิสูจน์ให้คนไทยทั้งประเทศเห็นถึงความเป็นนักกีฬามือหนึ่งของเธอ และแจ้งเกิดในวงการขี่ม้าไทยนับแต่นั้นมา 

หลังจากจบกีฬาซีเกมส์ไปสามปี ในปี 2010 ณีนากลับมารับใช้ชาติอีกครั้งในกีฬาเอเชียนเกมส์ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน ครั้งนี้ณีนากลับมาด้วยฟอร์มที่เก่งขึ้น เติบโตขึ้นและเป็นความหวังของทีมชาติไทย เนื่องจากในกีฬาเอเชียนเกมส์ เธอต้องแข่งขันกับนักกีฬาชั้นนำของเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น จีน และ เกาหลี
  
กีฬาอีเวนท์ติ้งเป็นกีฬาที่ต้องแข่งขันกันถึงสามวัน เหมือนไตรกีฬา โดยแต่ละวัน นักกีฬาและม้าจะต้องผ่านการทดสอบประเภทต่างๆ เริ่มจากการแข่งขันศิลปการบังคับม้า(Dressage) ในวันแรก การกระโดดในภูมิประเทศ (Cross Country) ในวันที่สอง และขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (Show Jumping) ในวันที่สาม โดยนักกีฬาและม้าที่ทำคะแนนเสียน้อยที่สุดของทั้งสามวันจะเป็นผู้ชนะ

ในเอเชียนเกมส์ ณีนาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้ณีนาจะเป็นนักกีฬาหน้าใหม่แต่ก็สามารถทำคะแนนนำแซงหน้ามืออาชีพในการแข่งขันในวันแรกและวันที่สองได้ ในขณะที่นักกีฬาระดับโอลิมปิคจากญี่ปุ่นและเจ้าภาพจากจีนซึ่งมีคะแนนตามมาติดๆทำคะแนนได้ดีกว่าในวันที่สาม ทำให้ณีนาโดนทำคะแนนแซงไปในช่วงสุดท้ายอย่างฉิวเฉียด และเป็นผลให้เธอคว้าเหรียญเงินประเภททีมและอันดับที่ 4 ในประเภทบุคคลมาครอง

เมื่อผ่านการเป็นทีมชาติไทยทั้งในชุดซีเกมส์และเอเชียนเกมส์แล้ว ก้าวต่อไปของณีนาคงหนีไม่พ้นกีฬาโอลิมปิคที่เธอใฝ่ฝันไว้ตั้งแต่เยาวว์วัย แต่เส้นทางสู่โอลิมปิคมักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะการลงแข่งขันในโอลิมปิคไม่ได้ใช้แค่ความสามารถเพียงอย่างเดียว แต่ก่อนที่จะได้ลงสนามในฝันนั้น นักกีฬาทุกคนจากทุกประเทศทั่วโลกจะต้องทำการแข่งขันเก็บคะแนนเพื่อแย่งสิทธิในการเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิค โดยมีนักกีฬาเพียง 75 คนที่ดีที่สุดเท่านั้นที่จะได้ลงแข่ง

การแข่งขันคัดตัวเก็บคะแนนเริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2011 และสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคม 2012 โดยผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะแบ่งออกเป็นนักกีฬาประเภททีม 11 ทีม หรือ 55 คน ส่วนอีก 20 คนเป็นนักกีฬาที่เข้าแข่งขันในประเภทบุคคล สำหรับประเทศไทยไม่มีนักกีฬาขี่ม้าในระดับนี้พอที่จะแข่งเป็นทีมได้ ณีนาจึงเป็นตัวแทนประเทศไทยเพียงคนเดียวที่จะต้องแข่งขันกับนักกีฬาทั้งโลก เพียงเพื่อแย่งสิทธิเพียงหนึ่งเดียวใน 20 ที่ของประเภทบุคคลนั้น

ในการลงแข่งขันแต่ละแมทช์ ณีนามีม้าระดับสุดยอดที่ใช้แข่งขันถึง 4 ตัว ได้แก่ Fernhill Fearless, Butts Leon, Jazz King และ Tipperary Liadhnan แต่สุดท้ายแล้วเมื่อถึงคราวลงแข่งขันจริงในโอลิมปิค ณีนาจะต้องเลือกม้าคู่ใจเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น หนึ่งปีที่ผ่านมาณีนาลงแข่งขันหลายรายการตลอดทั้งปี ซึ่งต้องใช้ความมุมานะและอดทนอย่างมาก เธอตระเวนแข่งขันไปเกือบทุกที่ไม่ว่าจะเป็นในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และสาธารณรัฐเชค

หลังจากลงแข่งขันไม่กี่นัด ณีนาก็ได้สร้างความประหลาดใจแก่วงการขี่ม้าในต่างประเทศ เพราะเด็กผู้หญิงสายเลือดไทยคนนี้ สามารถเอาชนะนักกีฬาตัวเต็งในการแข่งขันระดับนานาชาติได้หลายรายการ โดยเฉพาะรายการใหญ่ที่สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐเชค และล่าสุดเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณีนาก็ชนะเลิศการแข่งขันเก็บคะแนนโค้งสุดท้ายที่อเมริกามาได้อีก สื่อขี่ม้าต่างแดนต่างประโคมข่าวณีนา และถี่ขึ้นเรื่อยๆเมื่อเธอคว้ารางวัล Rising Star ของสหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ (Fédération Equestre Internationale) ในเดือนพฤศจิกายน 2011 ซึ่งถือเป็นรางวัลใหญ่ระดับโลกเทียบเท่ากับรางวัลออสการ์ในโลกภาพยนต์เลยทีเดียว

ผลการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมเพื่อเข้าแข่งขันโอลิมปิคของณีนา   เธอเป็นที่หนึ่งของทวีปเอเชียและรั้งอันดับที่ 36 ของโลก ส่วนในตารางเก็บคะแนนสะสมของ Olympic ประเภทบุคคล เธออยู่ในลำดับที่ 11 ของโลก เคียงคู่ไปกับนักกีฬาชั้นนำของโลกจากประเทศ ออสเตรเลีย ฮอลแลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ออสเตรีย เดนมาร์ก สเปน รัสเซีย

 

No comments:

Post a Comment