การแข่งขันกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางมักจะสนุกและตื่นเต้นอยู่แล้ว แต่ในโอลิมปิคครั้งนี้เราได้เห็นการรวมตัวของเหล่าเทพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Pius Schwizer SUI, Marcus Ehning GER, Rodrigo Pessoa BRA, Rich Fellers USA, Kevin Staut FRA, Eric Lamaze CAN ทำให้การแข่งขันนี้น่าตื่นเต้นขึ้นไปอีกเพราะผลการแข่งขันน่าจะสูสีเอามากๆ อย่างไรก็ดี ข้อดีของกีฬาประเภทนี้คือยังมีโอกาสเปิดกว้างให้กับทุกประเทศได้ลุ้นเหรียญรางวัลกันอยู่เรื่อย เพราะนักกีฬาสามารถทำคะแนนพลิกล็อคกันได้ง่ายๆ เราจึงไม่สามารถคาดเดาผลการแข่งขันได้เลย ต้องดูและลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ แบบห้ามกระพริบตาเลยทีเดียว
Gold for Team GB
คุ้มกับการรอคอยสำหรับเหรียญทองเหรียญนี้จริงๆ เพราะครั้งสุดท้ายที่อังกฤษคว้าเหรียญทองกระโดดก็เมื่อ 60 ปีที่แล้วในโอลิมปิคปี 1952 ที่เมืองเฮลซิงกิ (Helsinki) ประเทศฟินแลนด์
The British Olympic gold medal winning team. Photo courtesy of Kit Houghton/FEI.
จริงๆแล้ว ทางฝั่งเจ้าภาพก็เตรียมตัวทำการบ้านมาเป็นอย่างดีสมกับรางวัลเหรียญทอง สำหรับทีมกระโดดของอังกฤษคราวนี้ เป็นลูกผสมระหว่างนักขี่ม้ารุ่นเก่ามากประสบการณ์ อย่าง Nick Skelton และ Peter Charles กับนักกีฬาวัยรุ่นไฟแรง ทั้งBen Maher และหนุ่มน้อยน้าใส Scott Brash ซึ่งทุกคนในทีมสามารถโชว์ฟอร์มการขี่ได้อย่างสุดยอดจนได้ไปถึงรอบ Jump off กับทีมเนเธอร์แลนด์ที่มีคะแนนเสียเท่ากัน จนในที่สุดก็เฉือนเอาชนะทีมเนเธอร์แลนด์ไปอย่างสุดมันส์ ส่วนในลำดับที่ 3 เป็นของทีมจากซาอุดิอาราเบีย (KSA) ชาติเอเชียที่มีจุดแข็งในกีฬาประเภทนี้ ซึ่งเรามักจะเห็นนักกีฬาจาก KSA ได้เหรียญโอลิมปิคเป็นประจำอยู่แล้ว
อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าแปลกใจว่า ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างเยอรมนี ต้องหลุดโผไปอย่างน่าเสียดายเพราะทำผลงานได้ไม่ดีนัก
ม้ามืด Steve Guerdat?
ในรอบสุดท้าย คงไม่มีใครคิดว่านักกีฬาหนุ่มจากสวิตเซอร์แลนด์จะคว้าเหรียญทองประเภทบุคคลไปได้ เพราะคนขี่ที่มีฟอร์มร้อนแรงที่สุดคือ Nick Skelton จากประเทศเจ้าภาพ และในรอบทีม เขาก็ยังไม่ได้เตะเครื่องกระโดดเลยซักเครื่อง
Steve Guerdat (SUI) and Nino des Buissonnets, 2012 Olympic Jumping individual champions. Photo courtesy of Kit Houghton/FEI.
Nick Skelton (GBR) riding Big Star. Photo courtesy of Kit Houghton/FEI.
Nick Skelton (GBR) riding Big Star. Photo courtesy of Kit Houghton/FEI.
ย้อนกลับไปในรอบ Final Round A มีนักกีฬาเคลียร์ราวด์ถึง 7 คน แต่ใน Final Round B ทาง Nick Skelton ซึ่งแข่งหลังจาก Steve Guerdat ที่เคลียร์ราวด์ไปแล้ว เข้าสนามด้วยฟอร์มกระโดดที่ดี แต่ขาหลังของม้าพลาดเขี่ยเครื่องตกลงไป จึงทำให้ตัวเค้าเองหมดสิทธิ์คว้าเหรียญทองประเภทบุคคลไป (ถึงแม้ความผิดพลาดครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของ Nick Skelton ในการแข่งขันรวมทุกรอบที่ผ่านมาก็ตาม)
สำหรับในอันดับที่สองเป็นการปะทะกันระหว่าง Gerco Schroder จากเนเธอร์แลนด์ และ Cian O’Connor จากไอร์แลนด์ ที่ทำคะแนนเสียรวมเท่ากันในทั้งสองรอบ จึงต้องมาตัดสินใน Jump off โดยในการแข่งขันกันรอบนี้ Cian เกือบจะคว้าเหรียญเงินมาได้ เพราะเขาสามารถทำเวลาจากการขี่ได้เร็วกว่า Gerco แต่โชคไม่เข้าข้างพลาดเตะในเครื่องสุดท้าย ทำให้ได้เหรียญทองแดงไปในที่สุด
The London 2012 Olympic Jumping individual medallists: (left to right) Gerco Schroder (NED) - Silver, Steve Guerdat (SUI) - Gold, Cian O'Connor (IRL) - Bronze. Photo courtesy of Kit Houghton/FEI.
จะว่าไปแล้วถึงชื่อ Steve Guerdat อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่หากใครเคยได้ติดตาม ROLEX FEI World Cup Series 2011/2012 โดยเฉพาะในรอบ Final เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็คงรู้มาคร่าวๆแล้วว่า Steve Guerdat นั้นมีดีกรีเป็นถึงรองแชมป์รายการ World Cup ในขณะที่ Rich Fellers ชาวอเมริกัน ขึ้นแท่นมาเป็นแชมป์คนใหม่ของปีน้ี (แชมป์ปี 2010/2011 คือ Christian Ahlmann จากเยอรมนี) ส่วนในโอลิมปิค ปี 2008 ที่ฮ่องกง Steve ก็ยังเคยคว้าเหรียญทองแดงประเภททีมมาแล้วด้วย
ต้องขอบอกว่าการแข่งขันครั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่มีส่วนในการตัดสินผู้ชนะ คือการวางคอร์สกระโดดของBob Ellis ผู้ออกแบบสนามชาวอังกฤษ (Course Designer) ที่ออกแบบเครื่องกระโดดได้อย่างดีเยี่ยม มีเครื่องที่ทดสอบนักกีฬาอยู่ตลอดทั้งคอร์ส และเพิ่มความยากจากรอบแรกจนรอบสุดท้ายได้อย่างน่าดู อย่างในรอบการแข่งขันประเภทบุคคล มีนักกีฬาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่เตะเครื่องกระโดดเลยตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบสุดท้าย ต้องขอชื่นชมผู้ออกแบบสนามที่สามารถใช้เครื่องกระโดดเป็นบททดสอบในการวัดฝีมือของนักกีฬาได้อย่างแยบยล ทำให้เราสามารถแยกผู้ที่ขี่ได้ดีที่สุดออกจากนักกีฬาคนอื่นๆได้อย่างชัดเจน
แต่ทั้งนี้ ผมก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นไม่เก่งหรอกนะครับ ทุกคนที่ได้มาแข่งโอลิมปิคล้วนเป็นนักขี่ม้าระดับสุดยอดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าคอร์สกระโดดนี้ใช้วัดว่าใครผ่านบททดสอบต่างๆของผู้ออกแบบได้อย่างมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุดก็จะได้เป็นผู้ชนะไปเท่านั้นเอง ที่ผ่านมาทางผู้ออกแบบสนามก็ได้เปิดช่องให้นักกีฬาได้โชว์ศักยภาพและความสามารถอย่างเต็มที่มาตลอดตั้งแต่รอบแรกอยู่แล้ว
The Beautiful Tower Bridge over the River Thames!! Photo courtesy of www.arnd.nl/FEI.
นอกจากจะได้ชมการแข่งขันแบบที่ต้องลุ้นตัวโก่งตลอดเวลาแล้ว ผมก็ยังได้เพลิดเพลินไปกับเครื่องกระโดดในสนาม ที่ล้วนแต่จำลองสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆทั่วลอนดอน ตั้งแต่ Trafalgar Square, Houses of Parliament, London Eye, Tower Bridge, Big Ben, London Bus, Stonehenge และอื่นๆอีกมากมาย และที่สนุกกว่านั้นคือการที่มีการปรับเปลี่ยนคอร์สตลอดทุกๆรอบ เรียกว่าใครนั่งอยู่มุมไหนในสนามไม่มีได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะยังไงๆต้องมีซักรอบที่ผู้ชมจะได้เห็นนักขี่ชัดๆทุกมุมครับ :)
Results (via london2012.com):
Gold - Great Britain (Nick Skelton/Ben Maher/Scott Brash/Peter Charles)
Silver - The Netherlands (Jur Vrieling/Maikel van der Vleuten/Marc Houtzager/Gerco Schroder)
Bronze - Saudi Arabia (HRH Prince Abdullah Al Saud/Kamal Bahamdan/Ramzy Al Duhami/Abdullah Waleed Sharbatly)
Gold - Steve Guerdat SUI & Nino des Buissonnets
Silver - Gerco Schroder NED & London
Bronze - Cian O'Connor IRL & Blue Loyd 12
No comments:
Post a Comment