ส่วนวิธีการเก็บคะแนนสะสมของปีนี้ต่างจากเมื่อปีที่แล้ว โดยจะมีการแข่งขันทั้ง dressage แบบปกติ และแบบ freestyle to music แล้วจึงนำผลคะแนนของทั้งสองการแข่งขันมารวมกันหาเป็นค่าเฉลี่ยเพื่อจัดอันดับผู้ชนะในแต่ละสนาม
เอาละสิ! แค่จำ test ปกติก็จะปวดหัวตายอยู่แล้ว ต้องมาทำเพลงกับคิดท่าเองอีก แล้วจะไหวไม๊เนี่ย!!
ทำไมต้องมี freestyle to music ด้วย?
นี่เป็นตัวอย่างคำถามที่น้องๆถามกันเข้ามาหลายคน วันนี้เลยถือโอกาสมาตอบคำถามของน้องๆ และแนะนำเคล็ดลับในการทำ freestyle to music กันด้วย รวมถึงนำบทความที่ Hans Staub เคยพูดถึงเทคนิคการทำ Freestyle ไว้ใน Dressage Forum ปี 2009 มาให้อ่านกันอีกครั้งครับ
Freestyle to Music มีความสำคัญอย่างไร?
การแข่งขัน Dressage 'Freestyle to Music' มีไว้เพื่อให้นักกีฬาและม้าได้โชว์ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ในขณะที่ผู้ชมก็สามารถเพลิดเพลินและสนุกไปกับการแข่งขันได้เสมือนได้ดูโชว์ๆหนึ่ง ทุกวันนี้ในการแข่งขัน dressage ระดับนานาชาติ จะมีการแข่ง freestyle เพื่อใช้เป็นตัวตัดสินผู้ชนะอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงควรฝึกทำ freestyle ให้เกิดความคุ้นเคยกันตั้งแต่ระดับต้นๆครับ
เคล็ด(ไม่)ลับในการทำคะแนนให้ได้สูงๆจากการแข่งขัน Freestyle
1. เราต้องจำไว้อย่างหนึ่งว่า Freestyle คือ Dressage “to” music ไม่ใช่ Dressage “with” music
- หมายความว่า เพลงที่ใช้ต้องมีการ'ออกแบบ' โดยตัดต่อให้เข้ากับท่าทางและจังหวะ ยิ่งเข้ากันมากเท่าไหร่คะแนนก็จะยิ่งสูง
- ควรหลีกเลี่ยงการเอา test ปกติมาใส่เพลงเข้าไปเฉยๆ เพราะกรรมการคาดหวังที่จะเห็นความคิดสร้างสรรค์ และท่าทาง (movement) ที่ยากกว่า test ปกติ
- ไม่ควรแค่เอาเพลงมาเปิดคลอเฉยๆโดยไม่ตัดต่อให้เข้ากับจังหวะและท่าทาง
2. ใช้พื้นที่ในสนามให้เต็มที่ และลองทำท่าต่างๆบน quarter line กับ center line
3. ควรซ้อมหลายๆรอบจนจำท่าทางและจังหวะดนตรีได้ขึ้นใจ
4. หลีกเลี่ยงท่ายากที่ยังทำไม่ได้ ควรทำท่าที่ง่ายและมีความมั่นใจ
5. ใช้เพลงที่สนุกสนาน ฟังแล้วคล้อยตามไปกับการขี่ได้
Find your own gimmick and know what moves the crowd!!!
Related Articles:
No comments:
Post a Comment