Saturday, August 18, 2012

บทสรุปกีฬาขี่ม้าโอลิมปิค Final Review #1 - Dressage Olympics

ในที่สุดก็ได้พักเหนื่อย หาย jetlag ซักที หลังจากลากยาวเรื่องโอลิมปิคมากว่าเดือนครึ่ง ทั้งเตรียมงาน ทำงานทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง...เหนื่อยไม่ใช่เล่นแต่สนุกครับ และได้ประสบการณ์เยอะจริงๆ

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ก็ได้ฤกษ์รีวิวการแข่งขันโอลิมปิคกันซะทีครับ เริ่มด้วยกีฬาประเภทแรกกันก่อน Dressage (เดรสซาจ) หรือศิลปการบังคับม้า

Team GB - The Golden Lion  กับสองเหรียญทองประวัติศาสตร์   


Charlotte and her winning Gold medal in Individual Dressage. Photo via Valegro's Facebook.

Yeah!!! Team GB won the first Gold medal after GP & GP Special test. Photo via Valegro's Facebook.

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่สำหรับทีมขี่ม้าจากอังกฤษที่สามารถเบียดเอาชนะประเทศมหาอำนาจทางการขี่ม้า ทั้งเยอรมัน และเนเธอร์แลนด์ ที่ต่างผูกขาดการเป็นเจ้าเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิคมาตลอด โดยเยอรมันไม่เคยพลาดเหรียญทองทีมศิลปการบังม้าตั้งแต่ยุค 70 ส่วนในประเภทบุคคล เนเธอร์แลนด์ก็ผูกขาดมาหลายสมัย แต่ครั้งนี้ อังกฤษสามารถฝ่าด่านอรหันต์จนคว้าเหรียญทองทั้งทีมและบุคคลไปครองได้อย่างมหัศจรรย์ 

ทีมอังกฤษประกอบไปด้วย Carl Hester นักกีฬารุ่นเก๋ามือหนึ่ง ที่สร้างผลงานดีมาตลอดและสามารถเรียกเสียงฮือฮาจากวงการศิลปการบังคับม้าด้วยการเปิดตัวม้าตัวใหม่ใน European Championships 2011 ซึ่งก็คือเจ้า Utopia นั่นเอง

สมาชิกอีกคน คือ Charlotte Dujardin เธอไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของ Carl Hester นี่เอง จริงๆแล้วทั้งศิษย์ทั้งอาจารย์ต่างมีชีวิตที่คล้ายกัน คือ ทั้งคู่เริ่มจากการเป็นคนเลี้ยงม้าและเก็บเกี่ยวความรู้จากนักขี่ม้ามือโปรที่เค้าไปทำงานอยู่ด้วย และใช้ความพยายามอย่างสูงจนกระทั่งโอกาสดีๆมาถึง ตัว Charlotte เองกล่าวว่า เธอประสบความสำเร็จมาจนถึงบัดนี้ได้ก็ด้วยการสนับสนุนจาก Carl Hester ทั้งสิ้น ไม่เว้นแต่เจ้า Valegro ม้าที่เธอใช้แข่ง ก็เป็นม้าของคุณครูเธอเช่นเดียวกัน 

สำหรับ Charlotte เธอเพิ่งก้าวขึ้นสู่การแข่งขันระดับสูงสุด (การแข่งขันระดับ Grand Prix) เมื่อ 18 เดือนที่แล้วนี้เอง  แต่ถึงกระนั้น เธอก็แสดงความสามารถอย่างเต็มที่และทำได้ดีขึ้นทุกๆครั้งที่ลงสนาม จนหนึ่งเดือนก่อนโอลิมปิค เธอได้ลงแข่งนัดสุดท้ายและทำสถิติโลก FEI CDI GP Freestyle ที่ Hartpury college โดยเธอทำคะแนนได้ถึง 90.65% ทำให้ชาวอังกฤษคาดหวังในตัวเธอว่าจะต้องเป็นตัวเต็งที่จะคว้าเหรียญทอง ซึ่งเธอก็ทำได้สำเร็จในที่สุด!


Charlotte and Valegro in the fabulous Extended Trot!! Photo via Valegro's Facebook.

   

สมาชิกคนสุดท้าย Laura Bechtolsheimer เธอมี background แตกต่างจากอีกสองคนในทีมอย่างสิ้นเชิง เพราะเธอเป็นหลานสาวของมหาเศรษฐี และเริ่มขี่ม้าจาก pony club ได้รับการฝึกสอนระดับสุดยอดมาตลอด ถึงจะมีทุกอย่างพร้อมแต่เธอก็ต้องแสดงผลงานอย่างเต็มที่จนได้รับเลือกเป็นทีมชาติ และเธอก็ทำผลงานได้เป็นอย่างดี และนี่เป็นโอลิมปิคครั้งที่สองของเธอ กับม้าตัวเดิม Mistral Hojris 

คำถามที่คนสงสัยว่าอังกฤษชนะเพราะแข่งโอลิมปิคในบ้านตัวเอง?

เป็นเรื่องปกติที่คนหลายๆคนตั้งคำถามว่า การแข่งศิลปการบังคับม้าเป็นกีฬาที่ตัดสินด้วยสายตา จะเป็นไปได้ไหมว่า กรรมการจะลำเอียงไปทางเจ้าภาพ? 

ประเด็นนี้ ปัจจัยมีสองอย่าง คือ กรรมการ กับ การเป็นเจ้าภาพ 

ถามว่า กรรมการเป็นใครมาจากไหน? ในเมื่อการแข่งโอลิมปิคเป็นการแข่งระดับสุดยอดของโลก นักกีฬา และ ม้าต่างก็เป็นระดับสุดยอด  ฉะนั้นกรรมการเองก็ต้องผ่านการคัดเลือกมาเช่นเดียวกัน ในโอลิมปิค กรรมการที่จะสามารถตัดสินได้ต้องเป็นกรรมการระดับ 5* เท่านั้นซึ่งทั้งโลกก็มีเพียงแค่ 29 คน  สำหรับกรรมการที่ผ่านการคัดเลือกมาทั้ง 7 คน  จะต้องทำหน้าที่ให้คะแนนรอบสนาม และมีกรรมการอีก 3 คน เป็นกรรมการที่ดูการให้คะแนนกรรมการทั้ง 7 คนอีกที เรียกว่า Judging Supervisory Panel โดยทั้ง 3 คนนี้ มีหน้าที่ดูแลการให้คะแนนของกรรมการรอบสนาม และสามารถแก้ไขคะแนนได้ในกรณีที่กรรมการบางจุดให้คะแนนผิดพลาด  สรุปได้ว่าตอนที่นักกีฬาลงแข่งนั้น มีกรรมการอยู่ทั้งหมด 10 คน และยังมี scoreboard ที่แสดงผล real-time ของกรรมการแต่ละคนอีก ให้ผู้ชมที่ชมอยู่ที่สนามสามารถดูการให้คะแนนในแต่ละข้อได้อย่างโปร่งใสและรวดเร็วแบบไม่ทันกระพริบตา  

แต่แล้วทำไม คะแนนของกรรมการแต่ละคนถึงไม่เท่ากัน? ... ลองนึกดูนะครับเวลาที่นักกีฬาทำท่าท่าหนึ่ง มุมมองจากกรรมการ 7 คน เป็นมุมที่แตกต่างกันถึง 7 มุม ทำให้ในบางครั้งกรรมการบางจุดจะมองเห็นข้อผิดพลาดได้ง่ายกว่า หรือในทางตรงกันข้ามก็สามารถมองเห็นจุดที่ทำได้ดีชัดกว่าเช่นกัน  ดังนั้นคะแนนของกรรมการแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน แต่อย่างไรก็ดี ทิศทางการให้คะแนนก็จะไปในทิศทางเดียวกันเสมอ มีคำพูดของกรรมการระดับอาวุโสท่านนึง กล่าวว่า “ผู้ชนะคือคนที่สามารถขี่ม้าออกมาแล้วได้คะแนนสูงที่สุดจากทุกมุมมอง” 

แล้วการเป็นเจ้าภาพล่ะ มีผลไหม?  กรรมการทุกคนผ่านการตัดสินมาไม่น้อยกว่า 20-30 ปี  FEI จะต้องเลือกกรรมการที่ไม่มีประวัติด่างพร้อย หรือไม่เคยถูกร้องเรียนถึงความไม่เป็นธรรมมาก่อน ถ้าตั้งสมมติฐานว่ากรรมการจะต้องเข้าข้างเจ้าภาพ คงต้องย้อนกลับไปดูวันที่ทีมชาติอังกฤษชุดเดียวกันนี้ ชักธงขึ้นเสาในการแข่งขัน European Championships ปีที่แล้วที่เนเธอร์แลนด์เป็นเจ้าบ้าน  โดยทีมชาติอังกฤษสามารถเอาชนะทั้งทีมชาติเยอรมันที่ได้เหรียญเงิน และทีมชาติเนเธอแลนด์ที่คว้าเหรียญทองแดงได้อย่างขาดลอย แถมคะแนนยังได้เป็นสถิติใหม่ของยุโรปด้วย


British Team won Gold medal at the FEI European Dressage Championships 2011. 
(Left to right) Emile Faurie, Charlotte Dujardin, Carl Hester and Laura Bechtolsheimer.

บทสรุป (ในมุมมองส่วนตัว) 

ผลการแข่งขันครั้งนี้ไม่ได้พลิกความคาดหมาย เพราะอังกฤษทำผลงานได้โดดเด่นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว การแข่งขันครั้งนี้ ใครชนะก็ไม่แปลกสำหรับผมเลย เพราะเป็นการแข่งที่สูสีที่สุดในการแข่งโอลิมปิค เฉือนชนะกันเพียงไม่ถึงคะแนน 

ที่น่าสนใจมากกว่า คือการแข่งขันจากนี้เป็นต้นไปต่างหากว่าจะเป็นอย่างไร? เยอรมัน เป็นทีมที่ประกอบไปด้วยนักกีฬาหน้าใหม่ แม้จะเป็นนักกีฬาที่ไม่เคยแข่งขันโอลิมปิค แต่ก็ทำผลงานได้ดีจนคว้าเหรียญเงินมาครอง 


Helen Langenhanenberg GER and Damon Hill. Photo courtesy of Kit Houghton/FEI.


ส่วนเนเธอร์แลนด์ ผมมองว่านักกีฬากับม้าได้ทำผลงานเลยจุดสูงสุดไปแล้ว ต้องรอดูว่า เทพอย่าง Edward Gal จะมีทีเด็ดอย่างไรกับ Undercover ม้าตัวใหม่  เพราะในโอลิมปิคครั้งนี้เขากับม้าก็ทำผลงานได้อย่างดี ถึงแม้จะเคยแข่งคู่กันมาไม่ถึงปี แถมม้าตัวนี้ก็จะเพิ่งเคยมีประสบการณ์ในการแข่งขันใหญ่ๆไม่กี่ครั้งด้วยซ้ำ ส่วน Anky ผมไม่สงสัยในความเก่งของเธอเลย เพราะเธอคือคนที่เคยนำพากีฬา Dressage ไปสู่ยุคใหม่มาแล้ว แค่จังหวะตอนนี้มันเลยจุดสูงสุดของ Salinero ม้าสุดรักของเธอไปแล้วเท่านั้น  สุดท้าย Adelinde ก็ทำผลงานในโอลิมปิคได้อย่างสุดยอดเช่นกัน และเป็นคะแนนสูงสุดที่เธอเคยทำได้คู่กับ Parzival ด้วย เพียงแต่ว่าคะแนนที่ได้ยังสูงไม่พอที่จะทำให้ชนะ Charlotte ได้  

ผมเชื่อว่า ในอีกสองปีที่ WEG 2014 การแข่งขันศิลปการบังคับม้าจะต้องเข้มข้นกว่านี้แน่นอน!! รอดูกันต่อไปครับ!!!

Adelinde Cornelissen NED and Parzival. Photo courtesy of Kit Houghton/FEI.


Results (via london2012.com): 

Team Dressage (Grand Prix + Grand Prix Special)
Gold - Great Britain (Charlotte Dujardin/Carl Hester/Laura Bechtolcheimer)  79.979%
Silver - Germany (Helen Langehanenberg/Dorothee Schneider/Kristina Sprehe) 78.216%
Bronze - The Netherlands (Adelinde Cornelissen/Anky van Grunsven/Edward Gal)  77.124%

Individual Dressage (Grand Prix Freestyle to Music)
Gold - Charlotte Dujardin & Valegro  90.089%
Silver - Adelinde Cornelissen & Parzival  88.196%
Bronze - Laura Bechtolcheimer & Mistral Hojris 84.339%

No comments:

Post a Comment