Wednesday, July 25, 2012

LONDON DIARY #2 โลกใบเล็ก

ตั้งแต่เมื่อวาน(23 ก.ค.) จนถึงวันนี้ตอนสายเป็นการเตรียมพร้อมคอกให้กับButts Leon ที่จะย้ายมาในช่วงเที่ยงของวันนี้ (24 ก.ค.) ในการเตรียมคอกม้านอกเหนือจากการเตรียมความพร้อมทั่วๆไปแล้ว แต่ละประเทศยังมีการตกแต่งคอกม้าเพื่อแสดงถึงความเป็น"ทีมชาติ" ส่วนใหญ่ก็จะเอาธงและป้ายชื่อประเทศมาประดับ พร้อมกับ theme สีของแต่ละประเทศ

Butts Leon เดินทางมาถึง Greenwich; Photo courtesy of Nina Ligon

ในส่วนของทีมไทย ถึงแม้เราจะมีน้องณีนาลงแข่งประเภทบุคคลแค่คนเดียว แต่เราก็ไม่น้อยหน้าชาติอื่นๆเค้า และที่สำคัญนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ของการแข่งขันมักจะมาหยุดถ่ายรูปที่ธงชาติไทยและตราสัญลักษณ์โอลิมปิคประเทศไทย ที่เป็นรูป"ช้างศึก" ยืนอยู่บนห่วงโอลิมปิค ผมคิดว่าเค้าคงแปลกตากับช้างของเรา ว่ามันเกี่ยวอะไรกับการขี่ม้า แต่ก็ไม่สำคัญเพราะอย่างน้อยเราก็ทำให้คนอื่นได้รู้แล้วว่าในโอลิมปิคครั้งนี้มีตัวแทนจากประเทศไทยเข้าแข่งขันด้วย

ธงชาติไทยและสัญลักษณ์"ช้างศึก"หน้าคอก Butts LeonPhoto courtesy of Nina Ligon

ในสนามโอลิมปิคจึงเปรียบเหมือน "โลกใบเล็ก" ของวงการขี่ม้า เพราะมีประเทศต่างๆอยู่เต็มไปหมด นอกจากนั้นยังรู้จักสนิทสนมกันอีกด้วย

ความตื่นเต้นเริ่มขึ้นในช่วงบ่ายเพราะว่านักกีฬาและม้าทุกตัวในการแข่งขันอีเวนท์ติ้งเข้าประจำคอก และเมื่อมาถึงก็ไม่รอช้าที่จะเอาม้าออกมายืดเส้นยืดสายและให้ม้าได้ออกมาเจอบรรยากาศของสนามแข่งขัน ซึ่งม้าส่วนใหญ่ผ่านการแข่งขันใหญ่ๆมานับครั้งไม่ถ้วนจึงไม่ค่อยเห็นม้าตัวไหนออกอาการต่ืน อย่างมากก็แค่หยุดมองไปรอบๆ


ณีนากำลังฝึกซ้อมเบาๆในวันแรกที่มาถึงPhoto courtesy of Nina Ligon

ช่วงบ่ายนี้นอกเหนือจากการดูน้องณีนาซ้อมแล้วผมก็ปักหลักอยู่แถวสนามซ้อมเพื่อดูนักกีฬาระดับโลกเค้าฝึกซ้อมกัน บางคนรู้จักสนิทสนม บางคนเคยเห็นแต่ในทีวี

เริ่มจากทีมชาติอังกฤษที่มาร่วมแจมสนามซ้อมกับณีนา นำมาโดย Mary King สุดยอดนักกีฬาอีเว้นท์ติ้งหญิงของอังกฤษ ตามมาด้วย Zara Phillips หลานสาวควีนอลิซาเบธ ลูกเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ และนักกีฬาขวัญใจของอีเวนท์ติ้งอังกฤษ ตัวเต็งเหรียญทองในครั้งนี้ William Fox-Pitt นักกีฬาพวกนี้น่ารักเป็นกันเองทุกคนโดยเฉพาะ Fox-Pitt ที่ทักทายพวกเราอย่างเป็นกันเองเพราะซี้กับคุณแม่ณีนา(คุณแป้น)

William Fox-PittPhoto courtesy of Nina Ligon



ต่อมาเราก็เจอทีมชาติอเมริกาที่นำมาด้วย Phillip Dutton และ Boyd Martin ที่เป็นความหวังเหรียญทองของอเมริกา จริงๆแล้วทั้งสองคนเป็นคนออสเตรเลียแต่ได้ย้ายสัญชาติไปเป็นอเมริกันเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะ Boyd ที่พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่เค้าขี่อยู่กับ Heath Ryan ที่ออสเตรเลีย นักกีฬาไทยชุดเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ปี1998 จะรู้จักเค้าดีเป็นพิเศษเพราะฝึกซ้อมด้วยกันมา  เมื่อไม่นานมานี้ Boyd ยังได้รับการโหวตเป็น Top 100 นักกีฬาชายที่เซ็กซี่ที่สุด (Boydอยู่ในอันดับที่ 11) ทุกครั้งที่เราเจอกับ Boyd เค้าจะทักทายเป็นภาษาไทย"สวัสดีครับ"ทุกครั้ง


นิวซีแลนด์ที่ประกอบไปด้วย นักกีฬาระดับตำนานอย่าง Mark Todd, Andrew Nicholson กับดาวรุ่งพุ่งแรง Jonathan Paget เป็นเพื่อนบ้านที่อยู่คอกม้าเดียวกันกับประเทศไทย ทั้งสามคนนี้ก็มีสิทธิลุ้นเหรียญทองเหมือนกัน เผอิญวันนี้Andrew Nicholsonมาตามหาผมที่คอกแต่ผมไม่อยู่พอดีเลยไม่ได้เจอกัน ผมเองก็ไม่รู้จักเค้าหรอกแต่ผมร่วมงานกับ John Nicholsonพี่ชายเค้า(เห็นบอกว่าฝากของมาให้) ซึ่งประเทศไทยจะได้ John มาเป็น Cross Country Course Designerในงานแข่ง Asian Eventing Championship ปลายปีนี้ที่พัทยาด้วย  เรียกได้ว่า นิวซีแลนด์มีคนเก่งๆในวงการขี่ม้าเยอะจริงๆ

หัวหน้าทีมญี่ปุ่นPhoto courtesy of Nina Ligon

พอออกมาจากคอกก็ได้เจอทีมชาติญี่ปุ่นทั้งทีม เนื่องจากเป็นเอเชียด้วยกันก็เลยคุยกันอย่างสนุกสนานเป็นกันเอง ทั้ง Kenki Sato แชมป์เอเชี่ยนเกมส์ครั้งล่าสุด (นักกีฬาคนนี้เป็นพระญี่ปุ่น)และ Yumira นักกีฬาหน้าใหม่ที่เคยมาแข่งอีเวนท์ติ้งที่พัทยาหลายปีก่อน

ทีมสุดท้ายที่ได้เจอก็คือออสเตรเลีย ที่เป็นตัวเต็งประเภททีมของการแข่งครั้งนี้ Clayton กับ Lucinda Fredericks, Christopher Burton, Andrew Hoy ที่น่าเสียดายคือ Shane Rose โค้ชเอเชี่ยนเกมส์ทีมชาติไทยปี 2002 ที่ม้าเจ็บก่อนการแข่งขันไม่กี่วันเลยต้องให้ตัวสำรองMegan Jones มาลงแทนที่

หลังจากนั้นก็เจอเพื่อนๆที่เป็นกรรมการFEI จากประเทศต่างๆ บางคนเคยร่วมงานกัน บางคนเคยเข้าอบรมด้วยกัน เลยรู้สึกว่าการมาในโอลิมปิคครั้งนี้ได้เจอเพื่อนหลายๆคนพร้อมกัน และพลอยทำให้รู้สึกว่าใน Eventing โอลิมปิคครั้งนี้ เหมือนเราได้ย่อโลกของการขี่ม้าเข้ามาอยู่ในที่ๆเดียวกัน สำหรับผมแล้วมันเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ โดยเฉพาะการได้มีโอกาสเข้ามาดูเบื้องหลังการเตรียมตัวก่อนการแข่งขันที่จะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

Helen Christie & Tor ChalermcharnPhoto courtesy of Nina Ligon

สุดท้ายของวันที่ Greenwich Park ผมบังเอิญได้เจอAndrew Hoyอีกครั้ง เค้าเดินมาหาผมและบอกว่า "I made it!" ผมแสดงความยินดีและยังบอกเขาว่าผมยังจำคำพูดที่เขาพูดไว้เมื่อปีที่แล้วได้ และคุณก็ทำได้ สร้างสถิติเป็นนักกีฬาขี่ม้าอีเวนท์ติ้งที่ลงแข่งโอลิมปิคเป็นสมัยที่ 7 แล้วจนได้!


เมื่อปีที่แล้วหลังจากจบซีเกมส์ที่อินโดนีเชีย ผมเคยถามAndrew Hoy ว่าคุณจะไปแข่งโอลิมปิคที่ลอนดอนหรือเปล่า?  Andrew ตอบผมว่า "โอกาสที่เค้าจะได้ไปแข่งที่โอลิมปิคมีแค่น้อยนิด เพราะนักกีฬาออสเตรเลียคนอื่นๆทำคะแนนสะสมนำหน้าเค้าไปมากแล้ว แต่เค้ายังไม่ได้เริ่มแข่งเพื่อคัดตัวเลย แต่เค้าจะไม่ยอมแพ้"


"ตราบใดที่ยังมีโอกาสอยู่เค้าก็จะทำและเมื่อเค้าตัดสินใจแล้วก็จะเริ่มทำทันที"

นักกีฬาไทยที่อยากไปไกลถึงฝั่งฝัน ลองดูนักกีฬาโอลิมปิคเป็นตัวอย่างนะครับ ความพยายามและความมุ่งมั่นจะทำให้เราไปถึงจุดหมายได้ไม่ยากครับ :)



No comments:

Post a Comment