หากพูดถึงชายหาดหัวหิน ภาพหนึ่งที่แวบเข้ามาในใจของคนส่วนใหญ่ภาพหนึ่งคงเป็นชาวท้องถิ่นจูงม้าแกลบตัวเล็กๆมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปตามชายหาด หรือถ้าเย็นย่ำเข้าไปอีกนิดคนเหล่านั้นก็จะควบม้าไปตามชายหาดกลับคอก จนคนและม้าที่ว่ากลายเป็นสัญลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ของเมืองตากอากาศนี้ไปเสียแล้ว
และในอีกเพียงไม่กี่วันนี้ ภาพอันคุ้นตาที่ว่าจะถูกนำมาวาดใหม่ในรูปแบบของการแข่งขันขี่ม้าบนชายหาด หัวหิน ฮอร์สเฟสติวัล 2011 เอ็นดูแรนซ์คลาสสิคส์ (Hua Hin Horse Festival 2011 Endurance Classics) ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยครั้งนี้เป็นการแข่งขันขี่ม้าระยะทางไกลเลียบชายหาดอีกเหมือนเคย
ภาพจากงานแถลงข่าว งาน Horse Festival 2009 Endurance Classics ครั้งที่ 1 ณ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน
จะว่าไปแล้ว การแข่งขันขี่ม้าประจำปีที่เมืองหัวหิน ถือเป็นรายการสำคัญในประวัติศาสตร์วงการขี่ม้าเมืองไทยก็ว่าได้ เพราะรายการนี้เป็นกิจกรรมดีๆกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวของเมืองหัวหิน โดยเฉพาะกิจกรรมขี่ม้าชายหาดให้กลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง และที่สำคัญ ยังเป็นโอกาสอันดีที่จะสร้างภาพลักษณ์ของกีฬาขี่ม้าขึ้นมาใหม่ในสายตาของคนไทยที่อาจจะเคยคิดว่าการขี่ม้าเป็นเรื่องที่เข้าถึงยากและต้องอาศัยทักษะสูง ซึ่งในครั้งนี้เราคงจะได้เห็นกันว่า กีฬาชนิดนี้เป็นกิจกรรมที่เล่นได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ
มหกรรมขี่ม้าบนชายหาด ครั้งที่ 1 Horse Festival 2009
ฉลองครบรอบ 100 ปีเมืองหัวหิน
ประธานกล่าวเปิดงาน (ด้านหน้าจากซ้ายไปขวา) พลเอกไตรรงค์ อินทรทัต นายกสมาคมขี่ม้าฯในปี 2552, พณฯอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์, นายกนกพันธ์ุ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาฯ
สำหรับการขี่ม้าเอ็นดูแรนซ์ (Endurance) หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม การขี่ม้ามาราธอน ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2525 เอ็นดูแรนซ์อาจจะไม่ใช่กีฬาที่คนไทยคุ้นตานักเพราะไม่ได้วัดที่ความเร็วและความแรงดังเช่นเหล่าอาชาไนยในสนามม้าอย่างที่เราคุ้นตา แต่ตัดสินกันที่ “สภาพ” ของม้า กีฬาชนิดนี้จึงแตกต่างกับกีฬาส่วนใหญ่ตรงที่ผู้เข้าเส้นชัยเป็นลำดับแรกไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชนะเสมอไป เหตุผลที่กีฬาขี่ม้าเอ็นดูแรนซ์เลือกสภาพของม้าเป็นปัจจัยในการตัดสินเป็นเพราะเอ็นดูแรนซ์เป็นการแข่งขันบังคับม้าในระยะทางไกล ตั้งแต่ 40 กิโลเมตรไปจนถึง 160 กิโลเมตรตามแต่ผู้จัดการแข่งขันแต่ละครั้งจะกำหนด ดังนั้นนักกีฬาเอ็นดูแรนซ์นอกจากต้องมีทักษะในการบังคับม้าแล้วยังต้องสามารถ“บริหาร” การวิ่งของม้าให้วิ่งต่อไปได้จนจบการแข่งขันโดยที่ม้ายังอยู่ในสภาพปกติอีกด้วย เพราะด้วยระยะทางไกลเช่นนี้หากคำนึงเพียงแค่ความเร็วอย่างเดียวอาจทำให้ม้าเหนื่อยมากจนถึงกับเสียชีวิตได้
มหกรรมขี่ม้าบนชายหาด ครั้งที่ 2 Horse Festival 2010
เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสปี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
รวมรูปผู้จัดและกรรมการจัดการแข่งขัน ระหว่างพิธีเปิดงาน
บรรยากาศ Night Endurance
พลเอกไตรรงค์ อินทรทัต อดีตนายกสมาคมขี่ม้าฯ เป็นประธานในการจุดเทียนชัยถวายพระพรและร้องเพลงสดุดีมหาราชา ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ลานจัดงานหน้าหาด
สำหรับกติการการตัดสิน สัตว์แพทย์ได้กำหนดว่าในการหยุดนำม้าเข้ารับการตรวจจากสัตวแพทย์ระหว่างการแข่งขันทุกช่วงนั้น ม้าจะต้องไม่บาดเจ็บและอัตราการเต้นของหัวใจต้องไม่เกิน 56 ครั้งต่อนาทีและยังอยู่ในสภาพที่จะสามารถวิ่งต่อไปได้ เมื่อเข้าเส้นชัยแล้วต้องเข้าตรวจสภาพม้าอีกครั้งหลังจากที่เข้าเส้นชัยแล้ว20-30นาที หากไม่ผ่านทั้งนักกีฬาและม้าจะถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันทันที นอกจากนี้ เอ็นดูแรนซ์ยังเป็นการแข่งขันขี่ม้าที่ให้อิสระแก่นักกีฬามากที่สุดในบรรดาประเภทการแข่งขันขี่ม้าทั้งหมดเนื่องจากนักกีฬาสามารถบริหารเวลาของตนเองได้เต็มที่ กล่าวคือสามารถออกตัวเมื่อใดก็ได้ และสามารถลงจากหลังม้าระหว่างการแข่งขันได้หากต้องการโดยกฏบังคับว่าต้อง อยู่บนหลังม้าในช่วงผ่านจุดออกตัวและผ่านเข้าเส้นชัยเท่านั้น
สัตวแพทย์ทำการตรวจสภาพม้า
Trot up
ได้ฟังแล้วเช่นนี้ หลายคนอาจจะเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการขี่ม้าเอ็นดูแรนซ์แล้วว่าไม่ได้เข้าถึงยากอย่างที่คิด หากใครอยากรู้แจ้งเห็นจริงว่าเอ็นดูแรนซ์บนชายหาดเป็นเช่นไร เชิญมาสัมผัสด้วยตัวเองและเป็นกำลังใจให้ผู้เข้าแข่งขันกว่า 50 คู่ ได้ที่ ชายหาดหน้าโรงแรมดุสิตธานีหัวหิน ในวันเสาร์ที่ 4 มิถุนายนนี้ โดยมีการแข่งขันทั้งหมด 3 รุ่น คือรุ่น 20, 40, 80 กม. และการแข่งขันจะเริ่มขึ้นในเวลา 6.00น. เป็นต้นไป
ติดต่อและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
สมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย
โทรศัพท์ : +66 2 7103165 , +66 2 7103166 |
โทรสาร : +66 2 7308160 |
E-mail : thaiequestrian@yahoo.com |
No comments:
Post a Comment